ตร.จับชาวอุตรดิตถ์สกัดลักลอบขนแรงงานต่างด้าว

นายอธิพันธุ์ ดวงแก้ว อายุ 25 ปี ชาวอุตรดิตถ์ ถูกตำรวจทางหลวงอ่างทองสกัดจับ หลังรับแจ้งว่าลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า โดยใช้รถกระบะทะเบียน บบ 3931 พิษณุโลก มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ขณะถูกสกัดจับ นายอธิพันธุ์ เลี้ยวรถไปยังทางเข้าวัดต้นไทร อ.ไชโย และเมื่อจวนตัวจึงขับเบียดรถตำรวจ จากนั้นได้เปิดประตูกระโดดหลบหนี ส่งผลให้รถกระบะที่ขนแรงงานต่างด้าวพุ่งลงข้างทาง แต่สุดท้ายไปไม่รอด ถูกจับกุมได้ในที่สุด
ผู้ต้องหาสารภาพว่า ลักลอบขนแรงงานชาวพม่า 17 คน มาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปส่งโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร

ยกกำลังล่าระทึกคว่ำตาย2สาหัส5 ค้นรถเจอยาไอซ์

หนุ่มนักศึกษาเทคนิคควบกระบะแหกด่านตำรวจ แหกโค้งชนกำแพงบ้าน สังเวยสยอง 2 ศพ เจ็บระนาวอีก 5 ราย ผงะค้นในรถพบยาไอซ์ กระสุนปืนพร้อมแมกกาซีน คาดวัยโจ๋พกสิ่งผิดกฎหมายมาในรถ เห็นด่านตรวจค้นเกิดความกลัวเลยซิ่งแหกด่าน สุดท้ายพบจุดจบอนาถ รอสอบปากคำคนเจ็บหลังอาการดีขึ้นอีกครั้ง

สลดนักศึกษาซิ่งแหกด่านสังเวย 2 ศพ เจ็บระนาวครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 15 ม.ค. ขณะที่ พ.ต.ท. กฤศกร ทองอินทร์ รอง ผกก.ป.สภ. เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณถนนพัทยาเหนือ หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง พบรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บร 9853 ชลบุรี ขับผ่านมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้จอด แต่รถกระบะคันดังกล่าวพุ่งชน แหกด่านหลบหนีไปทางถนนสุขุมวิทอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงกระจาย กำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด

ต่อมา รถกระบะต้องสงสัยได้เลี้ยวเข้าไปในซอยวัดหนองใหญ่ กระทั่งพอถึง บริเวณทางโค้งรถเกิดเสียหลักพุ่งชนกำแพงบ้านของชาวบ้านอย่างแรงจนรถพัง ยับเยิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ ทราบชื่อนายอดิศร บุญหล่ำ อายุ 20 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งเป็นคนขับรถ และ น.ส.จุลจิรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี นอกจากนี้ในรถยังพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นายวัฒนา ปราบรัตน์ อายุ 20 ปี และหญิงสาวเป็นเยาวชนอีก 3 คน โดยคนเจ็บทั้ง 5 รายอาการค่อนข้างสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง รพ.บางละมุง ตรวจค้นในรถพบยาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใสจำนวนหนึ่ง และกระสุนปืนขนาด 11 มม. 2 นัดพร้อมแม็กกาซีน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษ ฐานว่า ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวขับรถกระบะผ่านมาพบด่านตรวจ จึงเกิดความกลัวเพราะในรถมีสิ่งผิดกฎหมาย เลยตัด สินใจซิ่งรถแหกด่านแล้วประสบอุบัติเหตุ ชนกับกำแพงจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งคงต้องรอให้คนเจ็บอาการดีขึ้นเพื่อจะได้สอบปากคำถึงที่มาของยาไอซ์และ กระสุนปืนว่าเป็นของใคร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.

ชาวบ้านวาเล่ย์ อยากให้กะเหรี่ยง-พม่าหยุดรบ

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ราษฎรบ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้ไปดูหลุมระเบิดเอ็ม.79 ที่ล้ำเข้ามาตกในเขตไทย หลังจากที่ทหารรัฐบาลพม่า รบกับฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. บริเวณค่ายวาเล่ย์ และมีกระสุนล้ำเข้ามาตกในเขตไทยหลายนัด แต่มีกระสุนเอ็ม 79 ที่ล้ำมาตกบริเวณในหมูบ้าน และอยู่ด้านหน้าฐานปฏิบัติการทหารของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด ซึ่งชาวบ้านดังกล่าว ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ขณะที่ฝ่ายทหารได้ตรวจสอบไปยังฝั่งพม่า ไม่มีกองกำลังฝ่ายใดที่ออกมาสแดงความรับผิดชอบ
ชาวบ้านวาเล่ย์ กล่าวว่า สถานการณ์การสู้รบ ทำให้รายได้ของชาวบ้านลดลงเพราะปกติได้ค้าขายกับชาวพม่า ขณะที่บางรายอยากจะให้การสู้รบยุติลงโดยเร็ว เพราะทำให้การค้าขายแย่ลง ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งสองฝ่ายเงียบลง ส่วนผู้หนีภัยสงครามชาวพม่ายังคงอาศัยอยู่ในเขตไทย โดยอาศัยอยู่ตามบ้านคนรู้จัก และพื้นที่ป่า