UNSCหนุนไทยเขมรถกทวิภาคี

ยูเอ็นเอสซีแถลงสนับสนุนไทย-เขมรเจรจาทวิภาคียุติปัญหาข้อพิพาทพร้อมเรียกร้องให้ทำข้อตกลงหยุดยิงถาวร ยันไม่ส่งตัวแทนร่วมประชุมรมว.ต่างประเทศอาเซียน22ก.พ.นี้

นางมาเรีย ลุยซา ริเบโร วิออตติ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แถลงภายหลังการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้น โดยระบุว่า ยูเอ็นเอสซีได้แสดงความวิตกอย่างยิ่งต่อปัญหาขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงหยุดยิงถาวร ตลอดจนแสวงหาหนทางแก้ปัญหาอย่างสันติ

"ยูเอ็นขอสนับสนุนการเจรจาแบบสองฝ่าย โดยมีอาเซียนเป็นผู้สนับสนุน และจะไม่มีการส่งตัวแทนของยูเอ็นไปร่วมประชุมอาเซียนแต่อย่างใด โดยยูเอ็นขอแสดงความยินดีและชื่นชมอาเซียนที่จะมีแผนจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว"นางมาเรียกล่าว

ขณะที่ นายมาร์ตี้ นาตาเลกาวา รมว.การต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ระบุว่า อาเซียนพร้อมสนับสนุนให้ทั้งสองประเทศเจรจาระดับทวิภาคี เพื่อจะหากลไกในการนำไปสู่การหยุดยิงถาวร

ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ แถลงว่า ขอบคุณยูเอ็นเอสซีที่ให้โอกาสไทยในการชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้น และฝ่ายไทยยึดหลักการแก้ไขปัญหาด้วยสันติ โดยการเจรจาระดับทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อคลี่คลายข้อขัดแย้งด้านชายแดน และในเวทีอาเซียน เป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งไทยขอปฏิเสธการเข้าแทรกแซงการเจรจาโดยสหประชาชาติ รวมทั้งข้อกล่าวหาที่ว่าฝ่ายไทยเป็นผู้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชา ดังที่ทางการกัมพูชากล่าวอ้างมาโดยตลอด

นายฮอร์ นัมฮง รมว.การต่างประเทศกัมพูชา แถลงยืนยันว่า ไทยเป็นผู้เปิดฉากยิงใส่กัมพูชาก่อน และตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมฝ่ายไทยจึงยึดมั่นกับการเจรจาที่ล้มเหลว รวมทั้งกัมพูชาเรียกร้องให้มีฝ่ายที่สามเข้าร่วมในการไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้ง อาทิ กองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่จะช่วยเป็นหลักประกันได้ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวรกับฝ่ายไทยได้ ทั้งนี้กัมพูชาจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตาวันที่ 22 กุมภาพันธ์

ที่มา...โพสต์ทูเดย์

ประเด็นร้อน 15 ก.พ

วันนี้ คนไทยต่างรอฟังผลการหารือเรื่องสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ของ รมว.ต่างประเทศ และท่าทีต่อไปของไทย
1.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศเตรียมชี้แจงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถึงผลการหารือและชี้แจงถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหารต่อ UNSC โดยคาดว่าจะเป็นการตอกย้ำถึงท่าทีของไทยที่ไม่ได้มีการรุกรานทางกัมพูชาก่อน แต่เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน เนื่องจากกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่พิพาทก่อน และเป็นความต้องการของกัมพูชาที่ต้องการยกระดับปัญหานี้ให้เป็นเรื่องของนานาชาติ

ทั้งนี้ เวลา 03.00 น. ของวันที่ 15 ก.พ. นายกษิต จะให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ของยูเอ็น www.un.org//webcast และจะโฟนอินทางช่อง 11 ในเวลา 06.00 น. จากนั้นเวลา 10.00 น.จะโฟนอินมายังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

2.การประชุมคณะรัฐมนตรีมีวาระที่น่าสนใจ คือข้อเสนอของนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการปฏิรูป เกี่ยวกับแนวทางปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร 5 ข้อ เช่น จำกัดเพดานการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรไว้ไม่เกิน 50 ไร่ต่อครัวเรือน ให้มีการจัดระบบข้อมูลการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรทั้งประเทศเป็นข้อมูลสาธารณะ

3.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เตรียมมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลออกหมายเรียกให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) มารายงานตัวในข้อหาชุมนุมในพื้นที่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาตรา 18 ซึ่งต้องรอดูท่าทีว่าแกนนำ พธม.จะตอบรับการไปรายงานตัวตามหมายเรียกหรือไม่และตำรวจจะมีมาตรการอะไรหาก พธม.ยังเพิกเฉยไม่ไปตามหมายเรียกต่อไป

4.พรรคเพื่อไทยจะประชุม วาระสำคัญคือ การเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2554 หรืองบกลางปีที่จะเข้าสภาในวันพุธที่ 16 ก.พ.นี้ ฝ่ายค้านแยกกันเดิน ร่วมกันตี ระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง กับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จับตาการจัดทีมอภิปรายเนื้อหาของฝ่ายค้านที่จะถล่มในเวทีนี้ โดยเฉพาะการทุจริต และการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว

5.หลังจากเกิดการฟ้องร้องวุ่นวายระหว่างบริษัท ทีโอที กับ กสท โทรคมนาคม และบริษัทเอกชนผู้ให้บริการมือถือ ทำให้คณะกรรมการเจรจาผู้ให้บริการมือถือจะเรียกผู้ให้บริการมือถือทั้ง 3 ราย คือ เอไอเอส ดีแทคและทรูมูฟ บริษัท ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม เข้าหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการแก้สัญญาที่ไม่ถูกต้อง โดยจะให้บริษัท ทีโอที และ กสทฯ ชี้แจงรายละเอียดที่มาของมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ให้บริการมือถือทั้ง 3 รายทราบ และกลับไปทำข้อเสนอที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ รวมทั้งการเจรจาระหว่างคู่สัญญาสัมปทาน คือ ทีโอทีเอไอเอส กสทฯ-ดีแทค และ กสทฯทรูมูฟ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา

6.คณะอนุกรรมการพิจารณาต้นทุนน้ำนมดิบจะมีการประชุมกันเพื่อพิจารณาว่าสมควรที่จะมีการปรับราคาน้ำนมเพิ่มอีก 1 บาท เป็น 18 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันราคา 17 บาทต่อลิตร ตามข้อเสนอของสหกรณ์โคนมฯเรียกร้องหรือไม่ โดยจะพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต่อราคานมโรงเรียนและนมพาณิชย์กระทรวงพลังงานแถลงโครงการ

7.เปลี่ยนแท็กซี่ใช้เอ็นจีวี โดยเป็นโครงการที่ส่งเสริมแท็กซี่ให้หันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้น เพื่อลดปริมาณการใช้ก๊าซหุงต้ม ซึ่งจะเป็นการประหยัดพลังงานและลดการนำเข้าจำนวนมากในขณะนี้

8.ที่ประชุมคณะกรรมการ กสท โทรคมนาคม จะมีการพิจารณาเรื่องแผนการของบริษัท ทรูฯ ซื้อฮัทช์ยังไม่จบรวมถึงพิจารณาแผนธุรกิจ กสทฯ โดยเฉพาะบริการ 3จี หลังอนุมัติทรูฯ ซื้อฮัทช์

9.ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจัดงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ตั๋วแลกเงินในมุมมองใหม่กับการลงทุนที่เหนือกว่า ภายใต้แนวคิด "มองไกล ได้ผลสูง" ที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ งานนี้ต้องรอลุ้นว่าจะมีการจ่ายดอกเบี้ยได้สูงแค่ไหน และเชื่อว่าหลังจากนี้ไปธนาคารพาณิชย์จะแข่งกันระดมเงินฝากในหลากหลายรูปแบบที่มีดอกเบี้ยสูงเป็นตัวล่อ

10.กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจะแถลงข่าวเรื่องทรัพย์สินที่กองทุนฟื้นฟูฯมีอยู่ทั้งหมด ก่อนที่จะมีการปิดกองทุนตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง

ที่มา...โพสต์ทูเดย์