7แกนนำแดงขึ้นเวที12มี.ค.เล็งไปทุกศาลจี้ปล่อยอีก"ตู่"ลั่นนำ"อริสมันต์-แรมโบ้"มอบตัวลุ้นได้ประกัน

นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยแกนนำคนเสื้อแดง เปิดแถลงข่าวประจำสัปดาห์ที่ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว วันที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยมี นพ.เหวง โตจิราการ และนายขวัญชัย (สาระคำ) ไพรพนา อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวได้มาทักทายกับมวลชนคนเสื้อแดง

นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ รักษาการโฆษก นปช. กล่าวว่า แม้จะมีการปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำ นปช. 7 คนออกมาแล้ว แต่การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงตามกำหนดนัดวันที่ 12 มีนาคม เพื่อรำลึกครบรอบ 1 ปีการเคลื่อนพลทั้งแผ่นดินของคนเสื้อแดงยังคงอยู่ แต่จะปรับเปลี่ยนเป็นการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 15.00 น.เพียงแห่งเดียวโดยจะไม่มีการเคลื่อนพลไปที่ไหน

"จะมีแกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 7 คนมาร่วมพบปะพี่น้องและปราศรัยด้วย เนื่องจากคำสั่งศาลที่ให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงนั้นห้ามยุยงปลุกปั่น และห้ามออกนอกประเทศ แต่ไม่ได้ห้ามเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและขับไล่รัฐบาล และวันที่ 27 กุมภาพันธ์จะร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต 91 ศพจากเหตุการณ์กระชับวงล้อมและขอคืนพื้นที่ถนนราชดำเนินและแยกราชประสงค์ ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2553 ที่วัดปทุมวนาราม ในเวลา 10.00 น."

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ภารกิจของคนเสื้อแดงหลังจากนี้ยังต้องเรียกร้องเศษความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดงอีกร้อยกว่าคนที่เหลือ โดยตั้งแต่วันนี้พวกเราจะเดินทางไปที่ศาลยุติธรรมทุกจังหวัด ที่มีคนเสื้อแดงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ

"ผมได้หารือกับคนเสื้อแดงอื่นๆ ที่ยังหลบหนีอยู่เบื้องต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายอารีย์ ไกรนรา นายอดิศร เพียงเกษ รวมถึงคนอื่นๆ แล้วว่าจะช่วยเหลือให้คนเหล่านี้ได้กลับมามอบตัวและหวังว่าจะได้รับการประกันตัว รวมทั้งจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ รับขวัญแกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 7 คน ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วันที่ 26 มีนาคมแน่นอน ให้เพื่อนๆ เก็บข้าวของรอไว้ได้เลย"นายจตุพร กล่าว

ที่มา...มติชน

ประเด็นร้อน 24 ก.พ.

1.ต้องติดตามมาที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยการประชุมวันนี้ได้เลื่อนการพิจารณากระทู้ถามสดออกไปก่อนเพื่อหลีกทางให้กับการพิจารณารายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ปีที่ 1 (วันที่ 30 ธ.ค. 2551 ถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2552)ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมข้อมูลมาอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การกระจายเม็ดเงินงบประมาณเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงผลงานในการแก้ปัญหาสังคม ขณะที่ฝ่ายค้านเตรียมใช้เวทีเป็นเขียงชำแหละรัฐบาลว่ามีการบริหารราชการที่ล้มเหลวอย่างไรบ้าง โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้นำในการอภิปรายแทนนายมิ่งขวัญแสงสุวรรณ์ สส.สัดส่วน

2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้ารับการไต่สวนตามหมายเรียกของศาลแพ่งในเวลา 09.00 น. ในคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน และนายทศพล แก้วทิมา กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ยื่นฟ้องนายกฯ กับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

3.สถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศลิเบีย ตอนนี้เริ่มทำท่าจะบานปลายมากขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโมอัมมาร์ กัดดาฟี ประกาศจะใช้กำลังปราบผู้ชุมนุมประท้วงและยืนยันไม่ลาออกจากตำแหน่ง เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้แรงงานไทยในลิเบียกว่า 2 หมื่นคนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานได้มอบให้นายสุธรรม นทีทอง โฆษกกระทรวงแรงงานในฐานะผู้ประสานงานช่วยเหลือแรงงานไทยในลิเบีย ให้เดินทางไปยังประเทศมอลตาที่มีพรมแดนติดกับลิเบียเพื่อหาช่องทางช่วยเหลือแรงงานไทยซึ่งเบื้องต้นได้เตรียมเช่าเหมาลำเรือจากมอลตาเพื่อนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือแรงงานไทย

4.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาทั้งในมาตรา 190 เกี่ยวกับหนังสือสัญญาระหว่างประเทศที่ต้องผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา และมาตรา 93-98 ในส่วนของที่มา สส.สูตร 375+125 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นรัฐธรรมนูญในวันนี้ โดยจากนี้ต้องจับตาไปที่ความเคลื่อนไหวของตลาดซื้อขาย สส.ว่ามี สส.คนไหนย้ายพรรคกันบ้าง หลังจากนายกฯ ได้ประกาศแล้วว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะตัดสินใจยุบสภาในช่วงเดือน เม.ย.

5.ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชายังต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชาทั้งสามฉบับที่รัฐสภาไทยตั้งขึ้นเตรียมสรุปรายงานเสนอให้รัฐบาลเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ปัญหาพิพาทของทั้งสองประเทศ โดยที่ประชุมได้มีข้อสรุปเบื้องต้นแล้วว่า ให้รัฐบาลเดินหน้าดำเนินการต่อตามกลไกเจบีซีตามข้อตกลง "เอ็มโอยู 43" ซึ่งยอมรับการจัดทำเขตแดนแต่ไม่เกี่ยวข้องกับการยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ตร.กม.ขณะที่รัฐบาลได้เตรียมการรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตัวแทนองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เตรียมเดินทางมาไทยในวันที่ 25 ก.พ.

6.ราคาน้ำมันยังเป็นเรื่องร้อนที่วางไม่ได้ โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานมี นพ.วรรณรัตน์ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เป็นประธานต้องประชุมหารือเรื่องแนวทางการดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทตามนโยบายรัฐบาล โดยเพิ่มอัตราการชดเชยราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งคาดว่าจะหนุนเพิ่มอีก 0.30-0.50 บาทต่อลิตรเนื่องจากราคาตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทำให้ต้องอุดหนุนเพิ่ม เพื่อไม่ให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น

7.กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จัดชี้แจงผู้ประกอบการที่ส่งสินค้าออกไปขายยังตลาดอียิปต์ โดยจะมีการแนะแนวทางการค้าและการรักษาตลาดของผู้ประกอบการส่งออกของไทย หลังจากที่ประเทศอียิปต์เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง

8.นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ซึ่งไทยยังมีอุปสรรคเรื่องต้นทุนสินค้าเกษตร ระบบการบริหารจัดการด้านขนส่งไม่สอดคล้องกับสินค้าเกษตรที่เน่าเสียง่าย ทั้งนี้การเพิ่มผลผลิตต่อไร่เพื่อมาชดเชยยังมีปริมาณไม่สูงมากนัก ทั้ง ข้าว ปาล์ม ฯลฯ คณะกรรมการชุดนี้จึงต้องเข้าแก้ไขปัญหา

9.บริษัท บัตรกรุงไทย หรือเคทีซีจัดพิธีเปิดงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี "เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก2011" ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ใครสนใจจะจองห้องพักราคาถูกกว่าปกติเชิญได้


ที่มา...โพสต์ทูเดย์