ยินดีต้อนรับ

ยินดีต้อนรับทุกท่าน...รับรู้ข่าวสารด้วยรายงานข่าวจาก ฝอ.2 บก.อก.ภ.6

28 มกราคม 2554

ทหารพม่าส่งกำลังถล่มDKBAหนักที่อ.พบพระ

สถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.พบพระ จ.ตาก ทหารรัฐบาลพม่า SPDC ยังคงส่งกำลังทหาร เข้าโจมตีกองกำลังทหารกะเหรี่ยง
พุทธเพื่อประชาธิปไตย DKBA อย่างหนัก บริเวณตรงข้ามบ้านห้วยน้ำนัก และบริเวณบ้านช่องแคบ ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ โดยฝ่าย
ทหารพม่า ได้ระดมยิงด้วยอาวุธ ปืน ค. 120 อย่างต่อเนื่อง และใช้กำลังทหารรุกคืบเข้าไปใกล้พื้นที่ฝ่ายกะเหรี่ยง ส่งผลให้ทั้งสองฝ่าย
มีการปะทะกันด้วยอาวุธประจำกายเป็นระยะ ๆ ขณะที่ ฝ่ายกะเหรี่ยง ได้สลายกำลังและปรับเปลี่ยนรูปแบบการรบเป็นหน่วยจรยุทธ หรือ
กองโจร โดยให้ ทหารกระจายกำลังและใช้วิธีซุ่มยิงโจมตีทหารพม่า ส่วน ผู้อพยพหลบหนีภัยสงครามชาวกะเหรี่ยง-พม่า ยังคงหลบอาศัย
อยู่ตามแนวชายแดน เนื่องจาก ไม่กล้ากลับไปฝั่งพม่า เพราะกลัวทหารพม่า จับไปเป็นลูกหาบขนเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และอาวุธยุทโธปกรณ์

ทางด้าน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ยังคงตรึงกำลัง บริเวณชายแดนไทย - พม่า เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของ
กองกำลังจากฝั่งพม่า

ประเด็นร้อนร้อน 28 ม.ค.

หยั่งเชิงดูท่าทีระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะตกลงปลงใจเปิดเวทีเจรจายุติม็อบหรือไม่ ขณะที่นายกฯ มีภารกิจนอกประเทศด้วยการประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ที่ดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ติดตามการโชว์วิสัยทัศน์ข้ามโลกท่ามกลางสถานการณ์ในประเทศ ในยามผู้นำไม่อยู่จะมีเหตุร้ายรุนแรงอะไรหรือไม่

1.เป็นเรื่องที่ยังต้องติดตามต่อเนื่องกับท่าทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่าจะเคลื่อนไหวอะไรต่อจากนี้ ท่ามกลางความเป็นห่วงว่าจะนำไปสู่ความรุนแรง หรือเกิดการสร้างสถานการณ์ เมื่อนายสุเทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมายื่นคำขาดห้ามพันธมิตรฯ บุกเข้าทำเนียบฯ วันนี้จึงต้องรอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่

2.ประเด็นสืบเนื่องอีกด้านหนึ่งต้องจับตาอยู่ที่ความเคลื่อนไหวฝั่งอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่ง ม.ล.วัลวิภาจรูญโรจน์ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติจะพาเครือข่ายส่วนหนึ่งไปดูพื้นที่ที่ 7 คนไทยถูกจับตัว โดยนัดรวมตัวกันที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ อีกด้านหนึ่งอาจทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ตึงเครียดมากขึ้น

3.สำหรับภารกิจนายกฯ อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ที่เดินทางไปร่วมประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ที่ดาวอสประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะกลับมาวันจันทร์ ทำให้การเปิดทางเจรจาระหว่างพันธมิตรฯ และนายกฯ ในช่วงนี้ต้องเลื่อนออกไปอีกจนถึงวันจันทร์ ช่วงนายกฯ ตัวจริงไม่อยู่ สถานการณ์จะลุกลามบานปลายหรือไม่ ในช่วงที่นายสุเทพขึ้นทำหน้าที่รักษาการนายกฯ

4.ทันทีที่รับบทรักษาการนายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ มีกำหนดนัดประชุมบ่ายโมงทันทีที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าด้วยคณะกรรมการกระชับสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-จีน ชื่อคณะกรรมการชุดนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะมีเมกะโปรเจกต์หลายด้านที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ดึงภาคธุรกิจเอกชนจีนเข้ามาดำเนินการ ต้องติดตามอินไซด์โครงการต่างๆ และเม็ดเงินลงทุนจะมากมายมหาศาลขนาดไหน

5.อีกประเด็นร้อนที่ต้องติดตาม เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)จัดสัมมนาเรื่อง "การพัฒนากระบวนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมอย่างเคร่งครัด" ถกกันถึงปัญหากฎหมายจัดการกับพวกที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนนั่นเอง ดังนั้น วันที่28 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น จึงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และอาจมีข้อมูลใหม่จากผู้ร่วมอภิปรายเปิดเผยขบวนการผลประโยชน์ทับซ้อนให้ฮือฮาผ่านสื่อก็เป็นไปได้

6.วันที่ 28 ม.ค. นายกรณ์ จาติกวณิชรมว.คลัง จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย วาระสำคัญ คือ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับบริษัทที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ หรือ mai ซึ่ง รมว.คลัง จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะลดอัตราภาษีนิติบุคคลเหลือเท่าไหร่ โดยไม่น้อยกว่าที่ได้ก่อนหน้านี้ที่ 20% จากอัตราภาษีปกติ 30% ขณะที่เอกชนขอมาถึง 8 ปีส่วนบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทางกระทรวงการคลังจะไม่มีมาตรการลดภาษีให้อีกต่อไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณารวมตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ภายใต้กำกับของกระทรวงการคลังกับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ภายใต้การกำกับของกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นตลาดเดียวกัน เพื่อให้มีความคล่องตัวในการซื้อขาย

7.อีกเรื่องที่น่าจับตา รมว.คลัง จะประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกร โดยการลดหนี้ 50% ให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิก หรือไม่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูประมาณ 8 หมื่นรายเบื้องต้น ธ.ก.ส.ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าลูกหนี้ที่ดีจะเสียประโยชน์ แต่ถ้าฝ่ายการเมืองจะเอา ใครจะห้ามได้

8.นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสศค. พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค.นัดแถลงข่าวรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ธ.ค. 2553 ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการคลัง

9.ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้สุดจะผันผวนวันจันทร์ดัชนีดิ่งลงเหว 42 จุด ตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติกว่า 4,000 ล้านบาท กดเงินบาทอ่อนยวบใกล้ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และวันรุ่งขึ้นแรงทิ้งยังไม่สะเด็ดน้ำ หุ้นร่วงต่ออีก 4 จุด แต่ไม่น่าเชื่อว่าวันพุธ และวันพฤหัสบดี ดัชนีดีดกลับขึ้นมาแรงและเร็วเกินคาด รวม 2 วัน กว่า 27 จุด ตามแรงไล่ซื้อหุ้นกลับของนักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศ วันนี้ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่าหุ้นจะวิ่งฉิวเหมือนสองวันก่อนหรือไม่