ยินดีต้อนรับ

ยินดีต้อนรับทุกท่าน...รับรู้ข่าวสารด้วยรายงานข่าวจาก ฝอ.2 บก.อก.ภ.6

18 มกราคม 2554

สิงห์ สิบล้อขี้เมาก่อเหตุอนาจารย่องเข้าบ้านแม่เฒ่าวัย 70

เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุคนงานขับรถสิบล้อบรรทุกดิน ก่อเหตุทำอนาจารพยามจะเข้าไปข่มขื่นแม่เฒ่าที่มีอาการป่วยเป็นโรคเรื้อน หูตึง และรูปร่างแคระแกน ที่บ้านเลขที่ 13 ม.9 ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

จากการเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านก่อด้วยอิฐบล็อกชั้นเดียว ชาวบ้านมุงดูหลายสิบคน มีนางน้อย พุ่มทอง อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านนั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามนางน้อย เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. นายอ๊อด อายุประมาณ 50 ปี เป็นคนงานขับรถบรรทุกสิบล้อ ได้เข้าก่อเหตุงัดประตูบ้านเข้ามาในบ้านด้วยอาการมึนเมาสุราพยามจะข่มขืนตน แต่ตนพยายาม ขัดขืน แต่นายอ๊อดใช้กำลังทุบตีที่ลำตัว และศีรษะหลายครั้งจนระบมไปทั้งตัว ด้วยความเจ็บปวดจึงได้ร้องให้คนช่วย ต่อมาเพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้อง จึงพากันมาช่วยหลายสิบคน นายอ๊อดเห็นว่ามีชาวบ้านมาช่วยจึงได้ใช้ช่วงความชุลมุนและอาศัยความมืดวิ่ง หลบหนีไปได้

นางน้อย กล่าวอีกว่า ช่วง 2 คืนที่ผ่านมา เคยถูกนายอ๊อดข่มขืนมาแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งความเพราะนายอ๊อดขู่ว่าจะทำร้าย ประกอบกับตนอยู่บ้านเพียงลำพัง สามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนลูกชายสองคนก็หายไปทำงานต่างจังหวัดนานแล้วไม่เคยกลับมา

ด้านนายเกียรติ พรมเงิน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 ม.9 ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อคืนได้ร่วมกับชาวบ้านหลายสิบคน มาที่บ้านของนางน้อย เนื่องจากได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเข้ามาที่ภายในบ้าน พบนางน้อยอยู่ในอาการหวาดกลัวนอนหงายอยู่บนเตียง ส่วนนายอ๊อดอยู่ในสภาพกางเกงหลุดลุ่ย เมื่อเห็นคนมาจำนวนมากจึงวิ่งหลบหนีไปกับความมืด

ด้าน พ.ต.ท.โยธิน สมบูรณ์ศิริ รองผู้กำกับ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลทรงธรรม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีตั้งแต่เมื่อคืนที่ได้รับแจ้งเหตุแล้ว พร้อมสั่งการให้ พ.ต.ท.เกรียงไกล รินทพล สารวัตรเวรอาญาสถานีตำรวจภูธรทรงธรรม เร่งดำเนินคดีออกหมายจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา บุกรุกบ้านผู้อื่นในยามวิกาล และก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา.

พระราชทานเพลิง 2 ตำรวจ.ที่จ.กำแพงเพชร เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขณะควบคุมตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์

ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 .เป็นประธานในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ศรีนวล และ ดาบตำรวจ อภิศักดิ์ เผ่าฟู ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขณะควบคุมตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์
ที่ เมรุ วัดคูยาง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พล.ต.ท.อาจิน โชติวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 เป็นประธานในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ศรีนวล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร และ ดาบตำรวจ อภิศักดิ์ เผ่าฟู ผู้ช่วยพนักงานสอบสวนฯ ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขณะควบคุมตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยมีนายวันชัย สุทิน ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พล.ต..ต.ทวีชัย วิริยะโกศล พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พ.ต.อ.ธนวรรธน์ อยู่คง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองมาร่วมในการประกอบพิธีท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว และเพื่อนข้าราชการตำรวจ รวมถึงประชาชนในพื้นที่
การ จากไปของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสอง ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของของครอบครัว และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่านได้ทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันราษฎร์ อันสมควรนำมาเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจทุกคน ซึ่งการจากไปในครั้งนี้ได้รับการยกย่องจากข้าราชการตำรวจและผู้ที่มาร่วมงาน ให้ท่านทั้งสองเป็นวีรบุรุษในดวงใจของทุกคนตลอดไป
และการสูญเสียของตำรวจอาชีพทั้งสองนายนี้จะเป็นครูและอุทาหรณ์ให้กับ ตำรวจทุกๆคนทั่วประเทศได้ ที่ปฏิบัติหน้าที่ ได้พึงระลึกอยู่เสมอว่า ชีวิตได้แขวนอยู่บนเส้นได้ในทุกวินาทีที่สวมเครื่องแบบ ปฏิบัติหน้าที่ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนอยู่นั้นจงอย่าได้ประมาทกับชีวิตที่ พร้อมจะเกิดความสูญเสียชีวิตเหมือนเช่นหนนี้

ผบ.ตร.เปิดนิทรรศการ"ตร.ยุคใหม่ไม่ทำผิด"

เมื่อเวลา 07.00 น.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดนิทรรศการตำรวจยุคใหม่ไม่ทำผิด บริเวณชั้น 1 อาคาร บช.ก. (ฝั่งถ.อังรีดูนังต์) พร้อมด้วยพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. (ปป 1) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น และผบก.ทั้ง 12 หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับ บช.ก. โดยพล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า นิทรรศการดังกล่าวเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะทำให้ตำรวจได้ตระหนักถึงปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในวงการตำรวจ เป็นการยกระดับแนวความคิดขึ้นมาให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนรับรู้สภาพปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์และหน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจ และใช้องค์ความรู้ใหม่ ๆ

“ตำรวจยังไม่เข้าใจว่าการเป็นตำรวจอาชีพต้องทำกันอย่างไร บางทีความผิดที่กระทำไปก็ทำเพราะความไม่รู้ว่าผิด และทำให้ไม่เป็นตำรวจอาชีพ เป็นแค่อาชีพตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวน สำหรับผมคิดว่าตำรวจทำผิดมากที่สุดคือใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด โครงการนี้จะทำให้ตำรวจตระหนักถึงความผิดพลาดที่ตนเกิดขึ้น” พล.ต.อ.วิเชียรกล่าว และว่า เชื่อว่านิทรรศการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยบรรเทา ลดปัญหาการประพฤติผิดของตำรวจให้หันหลังกลับมาดูและรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ให้ตรงกับคำขวัญ บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว และการรณรงค์ ส่งเสริม ประชาสัมพัน์ให้ข้าราชการตำรวจมีจิตสำนึกยกย่องความชื่อสัตย์สุจริตให้เป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยการเปิดโอกาสให้ภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลการทุจริต จะช่วยบรรเทาปัญหาการทุจริตได้อีกส่วนหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นิทรรศการ “ตำรวจยุคใหม่ ไม่ทำผิด” นั้นจัดที่บริเวณโถงชั้นล่าง อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนิทรรศการแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ โดยบริเวณทางเข้าเริ่มที่ด้านมืด หรือด้านไม่ดีของตำรวจที่ตกหลุมพรางไปกับความเชื่อ ค่านิยมที่ผิด ๆ อาทิ การใช้วิธีผิด ๆ อุ้ม ทำร้ายเพื่อการสืบสวน การอยากได้อยากมีอำนาจ หาตั๋วในการวิ่งเต้นจากนักการเมือง เงินซื้อขายตำแหน่ง มาเฟีย พ่อค้า การเบียดบังเวลาราชการ ไปจนถึงการอยากได้อยากมีทรัพย์สินเงินทองจึงรับผลประโยชน์ กระทำการเลี่ยงกฎหมาย เบียดบังงบประมาณราชการ ยอมถูกชักจูงโดยกลุ่มการเมือง กลุ่มนักธุรกิจ โดยนิทรรศการแสดงให้เห็นว่าเมื่อตำรวจเรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งผิด ยอมรับปรับปรุง เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง สู่แนวทางตำรวจที่ถูกต้อง รับฟังเพื่อนร่วมงาน ความคิดเห็นความต้องการของสังคม ตำรวจก็จะดีขึ้น

ราษฎรไทยส่วนใหญ่เห็นว่าผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎร ไทย

เมื่อ ๑๗ ม.ค. ที่วัดวาเล่ย์เหนือ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่ ๓ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จ.ตาก ราษฎรไทยจำนวนกว่า ๑๐๐ คน ได้เดินทางมาร่วมทำประชาคมหมู่บ้าน โดยมี ร.ท.เฉลิม บุญพรมวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วาเล่ย์, เจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารราบที่ ๑๗๔๓ ฐานปฏิบัติการบ้านวาเล่ย์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ ๔ ราษฎรไทยส่วนใหญ่เห็นว่า ต้องการให้ผู้อพยพที่อาศัยอยู่อย่างอิสระในหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ออกจากหมู่บ้านไป เนื่องจากผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎร ไทย และมีการขโมยทรัพย์สิน ซึ่งทางชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สามารถจับกุมได้เกือบทุกคืน นายก อบต.วาเลย์ ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมทำประชาคมว่า ปัญหาการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-พม่า ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานาน และต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคน ที่ช่วยกันดูแลในหมู่บ้าน สำหรับผู้อพยพดังกล่าวมีประมาณ ๑,๐๐๐ คน ได้หนีภัยสงครามจากการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า กับกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ ดีเคบีเอ-กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ เคเอ็นยู หรือ กะเหรี่ยงคริสต์ บริเวณค่ายวาเล่ย์ ตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ยเหนือ บ้านวาเล่ย์ใต้ โดยเข้ามาอยู่อย่างอิสระ กระจัดกระจายไปทั่วตามแนวชายแดน

เกาะติดประเด็นร้อน วันที่ ๑๘ ม.ค. ๕๔

เกาะติดตามประเด็นสำคัญของวันที่ ๑๘ ม.ค. ๕๔
๑.ประเด็นใหญ่วันที่ ๑๘ ม.ค. ต้องรอลุ้นผลการพิจารณาของศาลอุทธรณ์กัมพูชา ว่าจะให้ประกันตัว ๕ คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัวในการล่วงอธิปไตยหรือไม่ หลังจากทนายความได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์ไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๔ ม.ค.ที่ผ่านมา และศาลได้นัดพิจารณาคำร้องในวันที่ ๑๘ ม.ค. ว่า จะได้รับการประกันตัวเพิ่มเติมจากเดิม ๒ คน ก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยเฉพาะกับนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ซึ่งถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการจารกรรมข้อมูลเพิ่มเติม งานนี้คงจะได้พิสูจน์ฝีมือรัฐบาลอีกรอบ ซึ่งล่าสุด นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อยู่ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะหารือเรื่องนี้กับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมต.ต่างประเทศกัมพูชาด้วย
๒.ประเด็นต่อเนื่องยังอยู่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรัก ชาติ ที่ยืนยันเดินหน้าตั้งขบวนธรรมยาตราหน้าทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะเคลื่อนขบวนธรรมยาตราในเวลา ๐๙.๕๙ น. ไปทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำนักพระราชวัง หลังจากไม่สามารถพึ่งพาฝ่ายบริหารให้ช่วยเหลือ ๗ คนไทยที่ถูกจับตัวได้ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มได้งดจัดกองคาราวานรถกระจายเสียง ๓๐ คัน กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ เชิญชวนประชาชนมาร่วมชุมนุม เพราะเห็นว่าจะสร้างปัญหาการจราจร ท่ามกลางเสียงสะท้อนจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า การทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาครั้งนี้อาจเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
๓.การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ ๑๘ ม.ค. กระทรวงการคลังเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดงบประมาณกลางปี ๒๕๕๔ เพิ่มเติม ๑.๒ แสนล้านบาท เพื่อนำไปชดเชยเงินคงคลังที่ถูกนำมาช่วยเหลือภัยน้ำท่วม ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าเป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ทะลุเป้า จึงมีการตั้งงบกลางปีมาชำระหนี้และใช้ในการฟื้นฟูภัยพิบัติ ไม่ให้เป็นภาระต่อรัฐบาลชุดใหม่ แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่าการตั้งงบกลางปีนี้เพื่อแลกผลประโยชน์กับพรรคร่วม รัฐบาลในการโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสงสัยว่ารัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้เกินเป้าจริงหรือไม่ งานนี้ติดตามหลังการประชุมครม.นายกฯ และนายกรณ์ จติกวณิช รมว.คลังจะนำตัวเลขมาแจกแจงให้กระจ่างได้หรือไม่ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย และแนวทางการบริหารการคลังในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองสิ เป็นทางน้ำชลประทานที่เรียกเก็บค่าชลประทานในราคา ๐.๕๐ บาท/ลบ.ม. พ.ศ.... เพื่อดำเนินการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และเพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมติครม.เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ย.๕๐ ที่มีการอนุมัติให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) พิจารณาแล้ว โดยสาระสำคัญของร่างกฏกระทรวงฯกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองสิ และต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เป็นทางน้ำที่เก็บค่าชลประทาน หรือ เก็บค่าน้ำในราคา ๐.๕๐ บาท/ลบ.ม. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ และการทบทวนและวิเคราะห์สถานการณ์โครงการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่ เดินทางเข้ามาในประเทศในกรณีเกิดจลาจล