ครม.ให้ใช้พรบ.มั่นคงฯ7เขตกทม.9-23 ก.พ.

ครม.ไฟเขียวประกาศใช้พรบ.ความมั่นคงภายในราชอาญาจักร 7 เขตในพื้นที่กทม. ตั้งแต่วันที่ 9 - 23 ก.พ. พร้อมระบุกต.ไม่หวั่น"เขมร"เดินสายแจงนานาชาติถึงเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา



ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการประกาศใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ปี 2551 ในหมวดที่ 2 โดยประกาศครอบคลุม 7 เขต ดังนี้ วังทองหลาง , ปทุมวัน , ราชเทวี , ดุสิต ,วัฒนา, ป้อมปราบ , และพระนคร ตั้งแต่วันที่ 9 - 23 ก.พ. 2554



นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่า นายกษิต รมว.ต่างประเทศ เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยยืนยันว่าไทยปกป้องตนเองตามหลักสากล โดยนายกษิต ไม่กังวลที่กัมพูชาเดินหน้าชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยูเอ็น. เพราะโดยหลักแล้วยูเอ็นต้องการฟังคำชี้่แจงของทั้ง 2 ประเทศก่อน ก่อนที่จะมีการพิจารณาปัญหา พร้อมกันนี้ รัฐบาลยืนยันว่ายินดีที่จะพูดคุยกับแกนนำพันธมิตรฯ ในจุดที่ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกัน

พิจิตรบางอำเภอแล้งหนัก

อบต.วังกรด อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร เริ่มประสบปัญหาแล้งหนัก ชาวบ้านกว่า 500 คนใน 2 ตำบลร้องขอน้ำดื่มจาก อบต.จนต้องจัดสรรงบซื้อน้ำประปามาแจกจ่าย วอนจังหวัด-ปภ.ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง หวังได้งบเพิ่มเติมช่วยชาวบ้าน-ขอน้ำจากประปามาแจกจ่ายชาวบ้าน

นายมานะ วุฒิยากร นายก อบต. วังกรด อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ ชาวบ้านตำบลวังกรด หมู่บ้านที่ 3 กว่า 300 หลังคาเรือน และชาวบ้านหมู่ 6 กว่า 100 หลังคาเรือน กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่ม

เนื่องจาก 2 หมู่บ้านนี้ ไม่มี ประปาหมู่บ้าน เพราะน้ำฝนที่ชาวบ้านรองไว้ในช่วงฤดูฝนนั้นใช้ดื่มหมดแล้ว ทำให้ขาดแคลนน้ำ ชาวบ้านจึงมาร้องขอน้ำกับทาง อบต. ซึ่ง ทาง อบต. วังกรดได้แก้ปัญหาด้วยการไปซื้อน้ำประปา จำนวนจากรถบรรทุกน้ำคันละ 300 บาท มาแจกจ่ายชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

นายมานะ กล่าวอีกว่า อยากให้จังหวัดพิจิตร และป้องกันสาธารณภัย จังหวัดพิจิตร (ปภ.) ประกาศให้พื้นที่ของ อบต.วังกรดเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งได้แล้ว เพื่อจะได้ไปขอน้ำประปาจากประปาส่วนภูมิภาค อำเภอบางมูลนากมาแจกจ่ายชาวบ้านโดยไม่ต้องเสียเงินค่าซื้อน้ำอีก เนื่องจากฐานะการเงินการคลัง อบต. วังกรด มีงบประมาณจำกัด ปีนี้ยังถูกรัฐบาลเตัดงบไปอีก

กำแพงเพชรคุมเข้มสถานบริการ

นายจุมพล ม่วงทอง นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีการบันทึกข้อตกลงระหว่างอำเภอเมืองกับผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ และผู้ประกอบการคล้ายสถานบริการในพื้นที่อำเภอเมือง พร้อมทั้งชี้แจงรับทราบรายละเอียดของพระราชบัญญัติสถานบริการ และนโยบายการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดกำแพงเพชร รับอนุญาต ตั้งสถานบริการ ตกลงที่จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานบริการ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนโยบายจัดระเบียบสังคมอย่างเคร่งครัด โดยผู้รับอนุญาตสถานบริการจะกวดขันในเรื่องการขออนุญาตการตั้งสถานบริการให้ถูกกฎหมาย การห้ามผู้มีอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดเข้าไปในสถานบริการ การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การกระทำความผิดเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท การแสดงที่ไม่เหมาะสม การเปิด และปิดตามกฎหมายกำหนด และเรื่องอาวุธ

หลังมีการทำบันทึกข้อตกลง จะจัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในนามจังหวัดกำแพงเพชร ออกตรวจตราควบคุมสถานบริการ ผู้รับอนุญาตจะต้องควบคุมดูแลให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ถ้ามีการฝ่าฝืนไม่อาจที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ

ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เตรียมประกาศพรบ.มั่นคง 15 วันห้ามปิดห้ามเข้า

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอให้นำพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร หมวด 2 มาบังคับใช้ โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ หาก ครม.อนุมัติ จะประกาศเขตดุสิต แขวงบางขุนพรหม แขวงโสมนัส เป็นพื้นที่ที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคง และใช้อำนาจตามกฎหมายฉบับนี้ คลี่คลายสถานการณ์ป้องกัน ในขั้นต้นจะประกาศพื้นที่ควบคุมเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 – 23 ก.พ. โดยสั่งห้ามเข้าพื้นที่ เช่น ถนนราชดำเนิน ถนนพิษณุโลก ทำเนียบรัฐบาล อาคารรัฐสภา หน่วยงานราชการ

“หลังจาก ครม.ผ่านความเห็นชอบ ประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง ก็จะมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการตามกฎหมาย มีผู้อำนวยการศูนย์ กำหนดแผนในการคลี่คลายสถานการณ์ “ นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า เหตุผลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอให้ใช้พ.ร.บ.มั่นคง เนื่องจากมีผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม ประกาศเจตนารมย์ชัดเจนจะบุกรุกสถานที่ราชการ ทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา กระทรวงต่างๆ และมีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มประกาศจะมาดำเนินการลักษณะเดียวกัน สตช.มีความกังวลใจมีผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม มีเป้าหมายชัดเจนซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายกระทบกระทั่งกันเอง หรือสร้างความเสียหายในทรัพย์สินราชการ จึงมีความจำเป็นต้องใช้ พรบ.มั่นคงมาสกัดยับยั้ง ทั้งนี้จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักในการดำเนินการ และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ เจรจาแต่ก็ไม่สำเร็จ

ถามว่า หลังประกาศพรบ.มั่นคงจะขอคืนพื้นที่ทันทีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าถามล่วงหน้าเช่นนั้น ว่าจะทำอย่างไรต่อไป มีบทบัญญัติตามกฎหมายอยู่แล้วว่าเจ้าหน้าที่ จะทำอะไรได้บ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจดีจะปฏิบัติด้วยมาตรการที่เหมาะสม ไม่ประสงค์ร้ายต่อประชาชน แต่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย

ประเด็นร้อนวันที่ 8 ก.พ.

สถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจหลังทหารกัมพูชาสาดปืนใหญ่และส่งทหารโจมตีทหารไทยและบ้านเรือนราษฎรไทย ตั้งแต่วันศุกร์ต่อเนื่องมาถึงเมื่อวันที่ 7 ก.พ. แม้ว่าทหารไทยจะสามารถตั้งรับและตอบโต้กลับอย่างรุนแรง จนทหารกัมพูชาต้องติดต่อขอหยุดยิง แต่กลับเป็นการขอหยุดยิงในลักษณะกลเกมกัมพูชา
ศึกภายนอกแม้หนักใจ แต่ไม่หนักอกเท่ากับการเผชิญหน้ากับม็อบกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หยิบยกประเด็นอธิปไตยของไทยมาเป็นเครื่องกดดันขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี อีกทั้งแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ยังมีการพัฒนาเงื่อนไขในการเรียกร้องเป็นลำดับ

1.วันที่ 8 ก.พ. ยังต้องติดตามสถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะสงบลงหรือไม่ หลังจากเปิดฉากปะทะกันมา 4 รอบ โดยเฉพาะท่าทีหลังจากการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทพระวิหารไม่เป็นที่น่าพอใจ ขณะที่ทางการต้องดำเนินการอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 ตำบล ใน อ.กันทรลักษ์จ.ศรีสะเกษ ไปยังสถานที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด

2.การกระทบกระทั่งกันระหว่างไทยกัมพูชายังถูกหยิบยกนำไปขยายผลโดยเฉพาะท่าทีของกัมพูชาที่พยายามดึงให้สหประชาชาติส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นมาประจำการบริเวณพื้นที่พิพาท ขณะที่รัฐบาลไทยได้ส่งหนังสือชี้แจงไปยังสหประชาชาติเพื่อคัดค้านเรื่องนี้ และเห็นว่าควรจะแก้ปัญหาด้วยการเจรจาทวิภาคี จึงต้องติดตามว่าเรื่องนี้จะถูกขยายผลในเวทีโลกหรือไม่ และจะลุกลามไปมากน้อยเพียงใด

3.ปมสืบเนื่องที่เชื่อมโยงต่อมายังการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล นับถอยหลังสู่ดีเดย์เคลื่อนขบวนวันที่ 11 ก.พ.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมเฝ้าระวัง โดยนำลวดหนามเข้ามาป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายใน และในวันที่ 8 ก.พ. คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาการนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงมาบังคับใช้ในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลและสภา ซึ่งจะได้เห็นความชัดเจนในมาตรการเฝ้าระวังจากภาครัฐ

4.การประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.พ. มีวาระสำคัญหลายเรื่อง ไม่ว่าเรื่องความคืบหน้าในการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะยื่นญัตติในช่วงใด แต่คาดว่าอาจเป็นช่วงปลายเดือน ก.พ. รวมถึงท่าทีต่อการลงมติให้ความเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ3 ในวันศุกร์ที่ 11 ก.พ. แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะชัดเจนว่าไม่เอาด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ แต่ปัญหาเฉพาะหน้าคือ เชื่อว่าม็อบเสื้อเหลืองจะบุกมาปิดล้อมสภาแน่ จึงต้องดูว่า สส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปลงมติหรือไม่ และจุดยืนต่อศึกไทย-กัมพูชาว่าจะออกมาโจมตีรัฐบาล หรือสนับสนุนกองทัพ

5.ช่วงนี้ถือเป็นฤดูกาลจัดเก็บภาษีรายได้ ทำให้ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่มปลัดกระทรวงการคลัง ต้องเดินสายตรวจเยี่ยมกรมสรรพากรและมอบนโยบายการบริหารการจัดเก็บภาษีให้เป็นไปตามเป้าหมาย ณ ห้องพระอุเทน1 กรมสรรพากร หลังจากก่อนหน้านี้มีการประเมินว่ายอดการจัดเก็บรายได้จะเกินกว่าเป้าทั้งปี 1.2 แสนล้านบาทจนรัฐบาลตัดสินใจตั้งงบกลางปี 1.1 แสนล้านบาท

6.ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีกระต่ายจะไปทางไหน นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมด้วยผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ แถลงข่าวข้อมูล สถิติ และดัชนีอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 2554 ณห้องพิมานมาศ อาคาร 2 ชั้น 8 ธอส.สำนักงานใหญ่

7.ธนาคารกรุงเทพยังเปิดรับเงินบริจาคเพื่อซับน้ำตาเพื่อนคนไทยที่อยู่ชายแดนไทย-เขมรอย่างต่อเนื่องโดยเปิดบัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชี"ช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนไทยกัมพูชา" เลขที่ 101-3-42593-7 สำนักงานใหญ่สีลม รองรับการโอนเงินจากลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านสาขาทั่วประเทศ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ทราบแล้วเปลี่ยน