"ใจ อึ้งภากรณ์"ปลุกแดงต้านรัฐบาลเพื่อไทย

เว็บไซต์ประชาไทได้ตีพิมพ์ จดหมายเปิดผนึกจากนายใจ อึ้งภากรณ์ อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ต้องหาหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ท่ามกลางการหักหลังวีรชนเสื้อแดงโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ด้วยการปรองดองยอมจำนนต่อทหารและอำมาตย์ และท่ามกลางการรุกสู้ของกลุ่มเสื้อหลากสี ประชาธิปัตย์ ทหาร และอำมาตย์ ด้วยการใช้กฎหมาย 112 การใช้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือการกดดันข่มขู่ต่างๆ นานา “เสื้อแดงก้าวหน้า” จะต้องไม่นิ่งเฉย เพราะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นิ่งเฉยมานานเกินไปแล้ว คนเสื้อแดงจะต้องรวมตัวกันเคลื่อนไหวในขั้นตอนต่อไป เหมือนกับการต่อสู้กับเผด็จการทหารในอียิปต์

จึงขอเสนอจุดยืนร่วมที่เราน่าจะนำมาพิจารณา เพื่อก่อตั้งเครือข่ายกลุ่ม “เสื้อแดงก้าวหน้า” ในชุมชนต่างๆ และเพื่อประสานการเคลื่อนไหวดังนี้

1.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยนี้ไม่ใช่รัฐบาลของเรา ทั้งๆ ที่เราเคยทุ่มเทคะแนนเสียงให้เพื่อตบหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว เราขอประกาศว่าเราพร้อมที่จะต่อต้านรัฐบาลนี้อย่างถึงที่สุดในกรณีที่รัฐบาลไม่ทำตามผลประโยชน์ของเสื้อแดงที่เสียสละเพื่อประชาธิปไตย

2.ในการต่อต้านรัฐบาลเพื่อไทย เราจะไม่เปิดทางให้สลิ่ม ประชาธิปัตย์ และทหารได้ประโยชน์แต่อย่างใด เพราะเราจะเคลื่อนไหวต่อต้านฝ่ายเผด็จการเสมอ และถ้าทหารหรือฝ่ายอำมาตย์ออกมาขู่รัฐบาล เราพร้อมจะปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพียงแต่เราจะไม่เป็นกองเชียร์ให้เพื่อไทย

3.“เสื้อแดงก้าวหน้า” มีเป้าหมายร่วมคือ การสร้างประชาธิปไตยแท้ที่ไม่มีอำนาจนอกระบบมาแทรกแซง เราคัดค้านอิทธิพลของทหารและต้องการลดงบประมาณทหาร เราเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมาย 112 ซึ่งปฏิรูปไม่ได้ เราเรียกร้องให้มีการปล่อยนักโทษการเมืองเสื้อแดงและนักโทษ 112 ทันที และเราต้องการให้นายอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี) ประยุทธ์ (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.) อนุพงษ์ (พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.) และสุเทพ (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง) ถูกนำมาขึ้นศาลในฐานะที่สั่งฆ่าประชาชน

4. “เสื้อแดงก้าวหน้า” ต้องการให้มีการริเริ่มโครงการขนาดใหญ่ เพื่อฟื้นฟูชีวิตและการทำงานของประชาชนหลังน้ำท่วม โดยการตัดงบประมาณทหารและงบประมาณพิธีกรรม รวมถึงการเก็บภาษีในอัตราสูงจากคนรวยทุกคนอีกด้วย ในขณะเดียวกันควรมีการเดินหน้าสร้างรัฐสวัสดิการในประเทศไทย แทนที่จะช่วยแต่ฝ่ายนายทุน

5. “เสื้อแดงก้าวหน้า” ขอสนับสนุนข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ และพร้อมจะเคลื่อนไหวสนับสนุน

6. “เสื้อแดงก้าวหน้า” เข้าใจความสำคัญของขบวนการแรงงานในการเป็นพลังต่อรองเพื่อประชาธิปไตย และเรามุ่งมั่นที่จะเคลื่อนไหวร่วมกับนักสหภาพแรงงานก้าวหน้าในประเทศไทย

นายใจกล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้จารึกในหิน และไม่ได้เป็นการสั่งลงมาจากผู้ที่แอบอ้างว่าเป็น “ผู้รู้” แต่เป็นการจุดประกายเพื่อนำมาพูดคุยถกเถียงกันในกลุ่มต่างๆ ของชาวเสื้อแดง เพื่อสร้างเครือข่ายและประสานการต่อสู้ในรอบต่อไป โดยที่แต่ละกลุ่มควรจะเลือกผู้นำของตนเองและร่วมกันนำตนเองภายใต้จุดยืนร่วมกันที่ตกลงกันไว้

“ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ เราไม่สามารถพึงพอใจกับการอ่านหรือเขียนบทความในอินเทอร์เน็ต แต่ต้องมีการจัดตั้งจริงในโลกจริง อนาคตของประชาธิปไตยและความเสมอภาคในประเทศไทยอยู่ในมือของท่าน ไม่มีใครอื่นทำแทนได้” อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ระบุ

ที่มา....นสพ.โพสต์ทูเดย์

สถานการณ์น้ำท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมยังคงเป็นประเด็นใหญ่ให้ต้องติดตาม แม้ในหลายพื้นที่น้ำได้ลดระดับลงจนประชาชนสามารถทำความสะอาดบ้านเรือนและเก็บข้าวของกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแต่บางพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง ดังนั้นต้องจับตาการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้หรือไม่
1.ถือว่าเป็นข่าวดีก็ว่าได้ เพราะวันนี้ศปภ.จะทำการรื้อแนวคันกั้นน้ำกระสอบทรายขนาดใหญ่ (บิ๊กแบ็ก) ซึ่งจุดแรกที่จะรื้อคือ บริเวณถนนจันทรุเบกษาตัดกับถนนพหลโยธิน เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มลดลง โดยจะพิจารณาตามปริมาณน้ำที่ลดลงและน้ำที่ขังในพื้นที่ด้านล่างของคันบิ๊กแบ็กทั้งนี้ ศปภ.ยังได้มอบหมายให้ทาง กทม.เป็นผู้ประเมิน และจะมีการประเมินรื้อแนวบิ๊กแบ็กในเขตสายไหมต่อไป
2.ใครคิดที่จะซ่อมหรือทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดคงพลาดไม่ได้ เพราะวันนี้ นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ จะเป็นประธานประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง เพื่อขอความร่วมมือปรับลดราคาสินค้าให้กับประชาชนใช้ในการฟื้นฟูบ้านเรือนหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย และหากรายการไหนไม่สามารถปรับลดราคาลงได้ จะขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าไว้ก่อนส่วนการดูแลราคาสินค้าชนิดอื่นๆที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะหมูเนื้อแดงที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นถึงกก.ละ 130 บาท จากปัจจุบัน กก.ละ 120 บาท จะสั่งให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ว่าราคาที่ปรับขึ้นนั้นมีความเหมาะสมและเป็นไปตามกลไกตลาดหรือไม่ หากประเมินแล้วว่าราคาปรับตัวสูงขึ้นจนเกินไปจะต้องมีมาตรการเข้ามาดูแล ดังนั้นต้องมาลุ้นว่าการประชุมจะส่งผลช่วยเหลือชาวบ้านขนาดไหน
3.เวลา 10.00 น. น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานชมรมนักรบไซเบอร์ จะเดินทางไปยังศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ดำเนินการเอาผิดต่อผู้หมิ่นประมาทในโซเชียลเน็ตเวิร์กด้วยการปลอมลอกเลียนแบบ
4.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) เพื่อดูแผนการฟื้นฟูนิคมฯ และรับฟังความคิดเห็นพร้อมหารือผู้ประกอบการเกี่ยวกับการฟื้นฟูความช่วยเหลือและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
5.กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อเดือน พ.ย. 2554 คาดแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อขยายตัวสูงขึ้นในสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ทำให้เกิดการกักตุนสินค้าและจำหน่ายในราคาแพงขึ้น โดยเป้าหมายเงินเพ้อปีนี้จะขยายตัวไปแตะระดับ 4% ที่กระทรวงพาณิชย์
6.นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์หารือผู้ประกอบการกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขอความร่วมมือปรับลดราคาสินค้าในกลุ่มเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้สินค้าในการฟื้นฟูบ้านและที่พักอาศัยทั้งนี้ คาดว่าสินค้าที่ปรับลดราคาได้ เช่น กระเบื้อง สีทาบ้าน น้ำยาทำความสะอาด ฯลฯ ส่วนสินค้าที่ไม่สามารถปรับลดราคาได้จะขอให้ตรึงราคาสินค้าไว้ก่อนเวลา 13.30 น.ที่กระทรวงพาณิชย์
7.ธนาคารกรุงเทพ จัดงาน "บัวหลวงรวมใจถวายพระพร" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววันที่ 5 ธ.ค. 2554 และกิจกรรมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันคล้ายวันก่อตั้งธนาคารครบรอบปีที่ 67 ณ ลานด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงเทพถนนสีลม
8.นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย แถลงผลงานลูกค้าเอสเอ็มอี ปี 2554 และแผนงานกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ปี2555 ที่สำนักงานพหลโยธิน สิ่งที่น่าติดตามจากนี้คือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าเอสเอ็มอีจากปัญหาน้ำท่วมด้วยว่าจะกระทบต่อคุณภาพลูกค้าด้วยหรือไม่
9.หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับองค์กรต่างๆ 23 องค์กร จัดงานแถลงข่าวผลการประชุมภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ที่มา...นสพ.โพสต์ทูเดย์