หลังพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง มีหลายเรื่องที่รัฐบาลภายใต้การนำของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ไม่ดำเนินการตามการคาดหวังของ "กลุ่มเสื้อแดง" บาดแผลของคนเสื้อแดงจากการต่อสู้กับรัฐบาลทหาร เลยมาถึงรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำที่คาดหวังว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะช่วยเยียวยามีหลายเรื่องราว 90 กว่าชีวิตที่สูญเสียจากปฏิบัติการสลายการชุมนุม ยังไม่มีวี่แววว่าจะหาตัวคนรับผิดชอบมาจัดการตามคำเรียกร้อง แม้จะมีความเคลื่อนไหวทางคดีอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนว่าเป็นการยื้อเวลาออกไปเสียมากกว่า
ท่าทีโดยรวมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์สะท้อนให้เห็นความต้องการประนีประนอมมากกว่าที่จะแตกหัก เหมือนที่สร้างความหวังกันไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อีกหลายชีวิตที่ถูกคุมขัง อันเนื่องมาจากการร่วมต่อสู้ ยังไม่เห็นแนวโน้มที่จะได้รับอิสรภาพ แม้จะมีความเคลื่อนไหวหาทางประกันตัว แต่นั่นเป็นบทบาทของแกนนำบางคน มากกว่าจะเป็นปฏิบัติการช่วยเหลือที่เกิดจากรัฐบาล ยังมีความรู้สึกว่าถูกปฏิบัติอย่างไรชอบธรรมอีกหลายเรื่อง ที่เสื้อแดงรอรัฐบาลจัดการแก้ไขให้ ไม่เพียงยังไม่มีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนั้น แต่รัฐบาลเลือกที่จะหาทางเดินไปด้วยกันกับระบบที่เสื้อแดงมองว่าเป็นปฏิปักษ์เสียด้วยซ้ำ จะพบว่าในทางการเมือง ยิ่งนับวันความขัดแย้งของกลุ่มเสื้อแดงจะมีมากขึ้น ยิ่งหลังเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่ทำให้พื้นที่จังหวัดซึ่งเป็นฐานของกลุ่มเสื้อแดงได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่การเยียวยาไม่ได้เกิดขึ้นอย่างทันท่วงทีบางพื้นที่จมความทุกข์ยาวนานอย่างไร้ผู้เหลียวแล ความน้อยเนื้อต่ำใจ แปรสู่ความโกรธเกรี้ยวความเป็นไปเช่นนี้ ก่อผลกระทบไม่น้อยต่อมั่นคงด้านจิตใจ เป็นไปได้ที่สายสัมพันธ์ของจิตใจคนเสื้อแดงจะบางลง ซึ่งยังมองไม่เห็นว่าจะหาเครื่องมือใดมาเยียวยาให้ "เสื้อแดง" ผนึกใจเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้ง แต่แล้ว เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติให้ส่งเรื่อง "สมาชิกภาพ ส.ส.ของจตุพร พรหมพันธุ์" ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ความน่าห่วงในเรื่องเสื้อแดงจะแตกตัว และถอยร่นเชิงอุดมการณ์ร่วมค่อยกลับมามีสถานการณ์ดีขึ้น ไม่ใช่เฉพาะ "จตุพร พรหมพันธุ์" มีฐานะเป็นหัวขบวนคนสำคัญของเสื้อแดงเท่านั้น แต่เมื่อมีการส่งสัญญาณว่านี่คือ "จุดเริ่มครั้งใหม่ของการจัดการกับเสื้อแดง" ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการขยายทัพเสื้อแดงเกิดจากการปลูกฝังเชิงอุดมการณ์เรื่องการต่อสู้ระหว่าง "ประชาธิปไตย" กับ "อำนาจนอกระบบ" เรื่องราวที่จะสร้างจุดรวมด้านจิตใจคนเสื้อแดงได้คือ "ประชาธิปไตย" ถูกคุกคามด้วย "อำนาจนอกระบบ" และชะตากรรมของ "จตุพร พรหมพันธุ์" ครั้งนี้ เป็นเรื่องที่จะจุดกระแสอีกครั้ง เพราะง่ายต่อการที่จะบอกกล่าวว่า นี่คือการเริ่มต้นอีกครั้งของอำนาจนอกระบบที่จะคุกคามประชาธิปไตย จัดการกับคนเสื้อแดง ท่ามกลางความสงสัยจริงใจ และน้อยเนื้อต่ำใจในความเป็นเสื้อแดงที่ถูกทอดทิ้ง สถานภาพ ส.ส.ของ "จตุพร พรหมพันธุ์" จะเป็นน้ำยาสมานอย่างดีที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่เริ่มร้าวของ "เสื้อแดง
ที่มา...นสพ.มติชน
