วันศุกร์สุดสัปดาห์ ชีพจรเศรษฐกิจมักจะเริ่มชะลอลง ประเด็นร้อนแรงจะกลับมาเป็นเรื่องการเมืองแทน แต่ทิ้งท้ายสัปดาห์นี้ก็ยังมีประเด็นร้อนทางเศรษฐกิจให้ติดตามอยู่บ้าง
1.นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวานผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจในปี2554 และ 2555 ตามปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เงินเฟ้อหรือราคาสินค้า ราคาน้ำมัน ค่าแรง การใช้จ่ายภาครัฐ ฯลฯ
ทั้งนี้ ปัจจัยทั้งหมดอาจจะมีผลให้อัตราการเจริญเติบโต (จีดีพี) ปีนี้และปีหน้าเติบโตได้ในระดับที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ ธปท.คาดว่าจีดีพีปีนี้น่าจะโตระดับ 3-5% แต่หากเงินเฟ้อสูงมากจนธปท.ต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เศรษฐกิจอาจจะขยายตัวไม่ถึงก็ได้
2.รมว.อุตสาหกรรมจะลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อไปตรวจโรงงานที่เข้าข่าย 11 กิจการรุนแรงว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 67 วรรค2 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในการรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนหรือไม่
3.งานใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ 3 สมาคม คือสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยจัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี พ.ศ. 2554 เรื่อง "อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2554" ณ ห้อง Plenary Hall 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อแจกแจงข้อมูลว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจะน่าเป็นห่วงว่าจะเกิดฟองสบู่หรือไม่ ทำไมธนาคารแห่งประเทศไทยจึงชะลอการปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์
4.กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และมหาวิทยาลัยศิลปากรจัดโครงการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถผู้ประกอบการ จัดทำโครงการนำร่องและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และโครงการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการใช้เครื่องมือออกแบบ ที่อาคารหอประชุมมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระเพื่อพัฒนาสินค้าส่งออกของไทย
5.ติดตามการตามจับโจรใต้ที่ปฏิบัติการถล่มฐานที่ตั้งทหารร้อย.ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ตั้งอยู่ที่ถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ อ.ระแงะจ.นราธิวาส จนเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ6 นาย เป็นเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญครั้งรุนแรง โดยฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลังทหารและตำรวจกว่า 300 นาย ปูพรมค้นหาตัวคนร้ายตลอดทั้งวัน ซึ่งเชื่อว่าทำเป็นทีมรวม 30 คน และมีเกลือเป็นหนอนเกิดขึ้น ขณะที่นายกฯ ระบุว่าเป็นฝีมือกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุป่วนมาหลายครั้ง
6.ความขัดแย้ง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี กลุ่ม 3 พี จากพรรคเพื่อแผ่นดินวิเคราะห์ว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลยังเห็นขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ในประเด็นสูตรระบบเลือกตั้ง ก็เชื่อว่านายกฯ จะตัดสินใจยุบสภาแน่
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของพรรคร่วมยังคงยืนยันเสียงแข็งว่าต้องเป็นสูตร400+100 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเพิ่งประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ก็ไม่เปลี่ยนจุดยืนในสูตร 375+125
7.อีกเรื่องคือความคืบหน้าการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ติดบ่วงอยู่ที่ประเทศกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้รัฐบาลจะมีข้อสรุปถึงแนวทางการช่วยเหลือ โดยได้นัดรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น รมว.ต่างประเทศ รมว.กลาโหม และผบ.ทบ. มาหารืออีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่20 ม.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกฯ ติดภารกิจ เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานให้ทางการกัมพูชาเร่งตัดสินคดี 7 คนไทยเร็วกว่าที่ทางกัมพูชากำหนดไว้ในวันที่ 1 ก.พ. ได้หรือไม่ เพราะเห็นว่าล่าช้าเกินไป
8.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แถลงผลประกอบการไตรมาส 4 และตลอดทั้งปี 2553 พร้อมแผนการดำเนินงานปี2554 ซึ่งต้องจับตามอง เพราะที่คนบอกว่าปีที่แล้วเศรษฐกิจแย่ แต่ธนาคารฟาดกำไรกันเป็นว่าเล่น อย่างธนาคารกรุงเทพ ปี 2553 มีกำไรสุทธิ 24,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% ส่วนเครือธนาคารกสิกรไทย กำไรสุทธิ 20,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 36.07%
9.การประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)ที่กรมพัฒนาที่ดิน เวลาบ่ายโมงเป็นต้นไป งานมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์รองนายกฯ เป็นประธาน วาระสำคัญคือคณะบริหารหนี้เสนอของบประมาณกว่าหมื่นล้านแก้ไขหนี้ของเกษตรกร หลังจากที่ผ่านมา รัฐบาลตั้งงบซื้อหนี้ในปี 2554 เพียง 500 ล้านบาท จากหนี้เกษตรกรทั้งหมดกว่า 3 หมื่นล้านบาท งานนี้มีขู่หากไม่ได้ 28 ม.ค. สมาชิก กฟก. 3 แสนรายจะเข้ากรุงเทพฯ
10.จับตากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิที่ชุมนุมอยู่หน้าประตู 4 ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิกว่า 100 คนเรียกร้องให้บริษัทท่าอากาศยานไทยหรือทอท. เร่งจ่ายค่าชดเชยผู้ได้รับความเดือดร้อนว่าจะเพิ่มความเข้มข้นในการชุมนุมมากขึ้นอย่างไรในวันนี้
