จับแล้วมือปืนยิง ส.จ.บางกระทุ่ม

ตร.พิษณุโลก จับแล้ว มือปืนยิง ส.จ.บางกระทุ่ม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาซัดทอด อดีต ส.จ.คนเก่า จ้างวาน 1.5 แสนบาท

ตำรวจ สภ.บางกระทุ่ม ได้ควบคุมตัว นายกิตติธัช หรือ สมยศ ป้อมสาหร่าย อายุ 40 ปี มือปืนที่ก่อเหตุยิงนายบุญณะ เขียวกรุง ส.จ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมารอดูกันเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ ต้องกันให้อยู่ห่างจากจุดทำแผน เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกประชาทัณฑ์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นได้รีบนำตัวผู้ต้องหากลับทันที ต่อมาได้มีการแถลงข่าวว่า นายกิตติธัช มือปืนที่ก่อเหตุได้ให้การซัดทอด นายกล บังวังโป่ง ซึ่งเป็นนายก อบต. นครป่าหมาก และเป็นอดีต ส.จ. ตำแหน่งเดียวกัน กับที่ นายบุณณะ ดำรงอยู่ ก่อนถูกยิงเสียชีวิต โดย นายกิตติธัช ได้กล่าวอ้างว่า นายกล ได้ว่าจ้างตนเอง เป็นเงินจำนวน 150,000 บาท ให้สังหารนายบุญณะ ซึ่งมี นายภคพล หรือ หรีด กำพล เป็นผู้ร่วมสังหารในครั้งนี้ด้วย แต่ขณะนี้ นายภคพล ได้หลบ
หนีไปแล้ว

ต่อมา นายกล บังวังโป่ง ได้เข้ามอบตัวกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล โดยใช้หลักทรัพย์มูลค่า 900,000 บาท ประกันตัวออกไปสู้คดี สำหรับการสังหาร ส.จ.บางกระทุ่มครั้งนี้ แนวทางการสืบสวนระบุว่า นายบุญณะ อดีต ส.จ.ผู้เสียชีวิต มีปัญหากับ นักการเมืองท้องถิ่น เคยร้องเรียน สตง.ให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณของ อบต.นครป่าหมาก ซึ่งอาจเป็นเหตุให้นักการเมืองท้องถิ่นไม่พอใจ จนกระทั่งถูกสังหารดังกล่าว

ไชยวัฒน์วางเป้าระดม "เหลือง-แดง"

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวว่า การที่ตนไปเชิญชวนแกนนำคนเสื้อแดงในเรือนจำนั้น ตนยื่นข้อเสนอให้มาร่วมกันไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งทางแกนนำเสื้อแดงก็มีท่าทีที่ดี เพราะคนอยู่ในคุกจะมีความเห็นอกเห็นใจกันตกอยู่ในสภาพเดียวกัน นายนิสิต สินธุไพร ก็รับปากว่าจะไปพูดคุยกับมวลชนแล้วจะแจ้งคำตอบกลับมา ทั้งนี้ที่ตนต้องร่วมมือกับคนเสื้อแดงก็เพราะประชาชนจะมาแตกแยกกันไม่ได้ ต้องออกมาไล่รัฐบาลขายชาติ รัฐบาลทักษิณ ยังแค่โกงชาติ แต่ก็ยังมีสติ แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ขายชาติ อย่างไร้สติ ฉะนั้นต้องทำการสามัคคีประชาชนเพื่อล้างบางนักการเมืองชุดนี้ให้หมด โดยคนที่มีสังกัดสีเหลืองหรือสีแดงต้องมองข้ามผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม แล้วให้มาร่วมมือกันเพื่อชาติ เสร็จภารกิจเพื่อชาติแล้วจะกลับไปทะเลาะกันต่อก็ไม่ว่าอะไร

นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การสามัคคีประชาชาติจะไปสู่การอภิวัฒน์ของประชาชน โดยต้องรวมประชาชนทุกกลุ่มทุกสีมารวมกันแล้วแสดงพลังด้วยการเดินขบวนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนได้ แต่หากรัฐบาลชิงยุบสภาหนี เราก็จะรณรงค์โนโหวตให้ได้เสียงของผู้งดออกเสียงเลือกตั้งมากกว่า 50 เปอร์เซนต์เพื่อเป็นการยืนยันว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ต้องการนักการเมืองแบบที่เป็นอยู่นี้เพื่อกดดันให้นักการเมืองเหล่านี้เว้นวรรคแล้วหลังจากนั้นจึงนำคนที่มีความรู้ความสามารถในบ้านเมืองมาสร้างกติกากันใหม่

ทหารพม่าส่งกำลังถล่มDKBAหนักที่อ.พบพระ

สถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.พบพระ จ.ตาก ทหารรัฐบาลพม่า SPDC ยังคงส่งกำลังทหาร เข้าโจมตีกองกำลังทหารกะเหรี่ยง
พุทธเพื่อประชาธิปไตย DKBA อย่างหนัก บริเวณตรงข้ามบ้านห้วยน้ำนัก และบริเวณบ้านช่องแคบ ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ โดยฝ่าย
ทหารพม่า ได้ระดมยิงด้วยอาวุธ ปืน ค. 120 อย่างต่อเนื่อง และใช้กำลังทหารรุกคืบเข้าไปใกล้พื้นที่ฝ่ายกะเหรี่ยง ส่งผลให้ทั้งสองฝ่าย
มีการปะทะกันด้วยอาวุธประจำกายเป็นระยะ ๆ ขณะที่ ฝ่ายกะเหรี่ยง ได้สลายกำลังและปรับเปลี่ยนรูปแบบการรบเป็นหน่วยจรยุทธ หรือ
กองโจร โดยให้ ทหารกระจายกำลังและใช้วิธีซุ่มยิงโจมตีทหารพม่า ส่วน ผู้อพยพหลบหนีภัยสงครามชาวกะเหรี่ยง-พม่า ยังคงหลบอาศัย
อยู่ตามแนวชายแดน เนื่องจาก ไม่กล้ากลับไปฝั่งพม่า เพราะกลัวทหารพม่า จับไปเป็นลูกหาบขนเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และอาวุธยุทโธปกรณ์

ทางด้าน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ยังคงตรึงกำลัง บริเวณชายแดนไทย - พม่า เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของ
กองกำลังจากฝั่งพม่า

ประเด็นร้อนร้อน 28 ม.ค.

หยั่งเชิงดูท่าทีระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะตกลงปลงใจเปิดเวทีเจรจายุติม็อบหรือไม่ ขณะที่นายกฯ มีภารกิจนอกประเทศด้วยการประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ที่ดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ติดตามการโชว์วิสัยทัศน์ข้ามโลกท่ามกลางสถานการณ์ในประเทศ ในยามผู้นำไม่อยู่จะมีเหตุร้ายรุนแรงอะไรหรือไม่

1.เป็นเรื่องที่ยังต้องติดตามต่อเนื่องกับท่าทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่าจะเคลื่อนไหวอะไรต่อจากนี้ ท่ามกลางความเป็นห่วงว่าจะนำไปสู่ความรุนแรง หรือเกิดการสร้างสถานการณ์ เมื่อนายสุเทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมายื่นคำขาดห้ามพันธมิตรฯ บุกเข้าทำเนียบฯ วันนี้จึงต้องรอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่

2.ประเด็นสืบเนื่องอีกด้านหนึ่งต้องจับตาอยู่ที่ความเคลื่อนไหวฝั่งอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่ง ม.ล.วัลวิภาจรูญโรจน์ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติจะพาเครือข่ายส่วนหนึ่งไปดูพื้นที่ที่ 7 คนไทยถูกจับตัว โดยนัดรวมตัวกันที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ อีกด้านหนึ่งอาจทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ตึงเครียดมากขึ้น

3.สำหรับภารกิจนายกฯ อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ที่เดินทางไปร่วมประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ที่ดาวอสประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะกลับมาวันจันทร์ ทำให้การเปิดทางเจรจาระหว่างพันธมิตรฯ และนายกฯ ในช่วงนี้ต้องเลื่อนออกไปอีกจนถึงวันจันทร์ ช่วงนายกฯ ตัวจริงไม่อยู่ สถานการณ์จะลุกลามบานปลายหรือไม่ ในช่วงที่นายสุเทพขึ้นทำหน้าที่รักษาการนายกฯ

4.ทันทีที่รับบทรักษาการนายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ มีกำหนดนัดประชุมบ่ายโมงทันทีที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าด้วยคณะกรรมการกระชับสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-จีน ชื่อคณะกรรมการชุดนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะมีเมกะโปรเจกต์หลายด้านที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ดึงภาคธุรกิจเอกชนจีนเข้ามาดำเนินการ ต้องติดตามอินไซด์โครงการต่างๆ และเม็ดเงินลงทุนจะมากมายมหาศาลขนาดไหน

5.อีกประเด็นร้อนที่ต้องติดตาม เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)จัดสัมมนาเรื่อง "การพัฒนากระบวนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมอย่างเคร่งครัด" ถกกันถึงปัญหากฎหมายจัดการกับพวกที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนนั่นเอง ดังนั้น วันที่28 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น จึงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และอาจมีข้อมูลใหม่จากผู้ร่วมอภิปรายเปิดเผยขบวนการผลประโยชน์ทับซ้อนให้ฮือฮาผ่านสื่อก็เป็นไปได้

6.วันที่ 28 ม.ค. นายกรณ์ จาติกวณิชรมว.คลัง จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย วาระสำคัญ คือ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับบริษัทที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ หรือ mai ซึ่ง รมว.คลัง จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะลดอัตราภาษีนิติบุคคลเหลือเท่าไหร่ โดยไม่น้อยกว่าที่ได้ก่อนหน้านี้ที่ 20% จากอัตราภาษีปกติ 30% ขณะที่เอกชนขอมาถึง 8 ปีส่วนบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทางกระทรวงการคลังจะไม่มีมาตรการลดภาษีให้อีกต่อไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณารวมตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ภายใต้กำกับของกระทรวงการคลังกับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ภายใต้การกำกับของกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นตลาดเดียวกัน เพื่อให้มีความคล่องตัวในการซื้อขาย

7.อีกเรื่องที่น่าจับตา รมว.คลัง จะประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกร โดยการลดหนี้ 50% ให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิก หรือไม่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูประมาณ 8 หมื่นรายเบื้องต้น ธ.ก.ส.ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าลูกหนี้ที่ดีจะเสียประโยชน์ แต่ถ้าฝ่ายการเมืองจะเอา ใครจะห้ามได้

8.นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสศค. พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค.นัดแถลงข่าวรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ธ.ค. 2553 ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการคลัง

9.ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้สุดจะผันผวนวันจันทร์ดัชนีดิ่งลงเหว 42 จุด ตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติกว่า 4,000 ล้านบาท กดเงินบาทอ่อนยวบใกล้ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และวันรุ่งขึ้นแรงทิ้งยังไม่สะเด็ดน้ำ หุ้นร่วงต่ออีก 4 จุด แต่ไม่น่าเชื่อว่าวันพุธ และวันพฤหัสบดี ดัชนีดีดกลับขึ้นมาแรงและเร็วเกินคาด รวม 2 วัน กว่า 27 จุด ตามแรงไล่ซื้อหุ้นกลับของนักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศ วันนี้ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่าหุ้นจะวิ่งฉิวเหมือนสองวันก่อนหรือไม่

ชี้รุกป่าญาตินักการเมืองเอี่ยว ผู้ว่าฯ ฉุนนอภ.รายงานคลาดเคลื่อน

หลังจากเจ้าหน้าที่จาก หน่วยงานรัฐหลายฝ่าย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการรุกป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำป่าสัก บ้านไทรงาม หมู่ 8 ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พร้อมยึดไม้ของกลางนั้น

แหล่งข่าวใน อ.วิเชียรบุรี กล่าวว่า การเข้ามาตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนนั้น ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้เข้ามาดำเนินการนานกว่า 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่เริ่มตัดไม้ และขนออกไปแปรรูปขาย แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการจับกุมและปราบปรามปล่อยให้นายทุนเข้า ไปตัดไม้อย่างต่อเนื่อง

"ผู้ที่รุกป่าเป็นญาตินักการเมืองท้องถิ่นใน อ.วิเชียรบุรี โดยแปลงที่บุกรุกมีพื้นที่กว่า 300 ไร่ อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติติดกับเขามดง่าม หมู่ 8 หลังหมู่บ้านไทรงาม ส่วนอีกรายเป็นนายทุนที่เข้ามาจ้างให้ชาวบ้านเข้ายึดครองแผ้วถางป่า โดยจะซื้อไร่ละ 200 บาท และขายคืนให้ชาวบ้านไร่ละ 3,000บาท " แหล่งข่าว กล่าว

นายประจักร มิยา หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ สำนัก 4 นครสวรรค์ กล่าวว่า พื้นที่อ้างว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสัก จริง ส่วนรายละเอียดการออกเอกสาร ส.ป.ก.ขอตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน

นายสมาน ปางวัชรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ เรื่องการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำป่าสัก ได้เรียกทั้งตัวแทนสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพชรบูรณ์ และป่าไม้เข้ามาชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเป็นมาอย่างไร และป่าตรงนี้ฝ่ายไหนรับผิดชอบ และทำไมจึงมีการปล่อยให้มีคนเข้ามาแผ้วถางเป็นจำนวนมาก พร้อมกับสั่งให้นายไพฑูรย์ อินทร์สุข อำเภอวิเชียรบุรี รายงานเรื่องนี้เข้ามายังจังหวัดด่วนเช่นกัน

นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายอำเภอวิเชียรบุรีแล้ว แต่คลาดเคลื่อนมากเพราะรายงานมาว่าเพียง 30 ไร่ ขัดต่อความเป็นจริง อาจต้องตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ฐานให้ข้อมูลอันเท็จต่อผู้บังคับบัญชา และได้มอบหมายให้นายสมาน ปางวัชากร รองผู้ว่าฯ เข้าควบคุมในเรื่องนี้แล้ว

พ.ต.ท.นิวัฒน์ คันธานันท์ รอง ผกก.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี กล่าวว่า คดีนี้หลังจากรับของกลางเป็นไม้ 31 ท่อนที่ป่าไม้ยึดมา ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อสืบหาตัวคนกระทำผิดอย่างเร่งด่วนแล้ว

พิษณุโลกเตือนระวังสินค้าปลอมเกลื่อนตลาด

จ.พิษณุโลก วิกฤติของแพง ส่งผลสินค้าปลอมเกลื่อนตลาด สสจ. แนะ ผู้บริโภค สังเกตบรรจุภัณฑ์และวันหมดอายุให้ชัดเจนก่อนซื้อ
จากภาวะวิกฤติที่สินค้าอุปโภคบริโภค มีราคาแพงขึ้น ส่งผลให้มีผู้ประกอบการบางราย นำสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ที่เป็นของปลอม มาวางจำหน่าย บางชนิดเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ โดยขณะนี้ตามตลาดสด และตลาดนัดในจังหวัดพิษณุโลก มีการนำสินค้าจำเป็น ช่น แชมพูสระผม มาจำหน่ายในราคาถูก อย่างผิดสังเกต โดยลักษณะของแชมพู จะมีบรรจุภัณฑ์ หรือ ลักษณะของขวดที่ดูเหมือนกับเป็นของเก่า มาวางขาย ตรวจสอบดูลักษณะภายใน จะมีสีคล้ายกับของจริง แต่กลิ่นจะแตกต่าง
อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีผู้บริโภคบางรายหลงเชื่อซื้อไปใช้เพราะคิดว่าเป็นสินค้าราคาถูกแล้ว เบื้องต้น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้แนะนำประชาชน สังเกตบรรจุภัณฑ์ และวันหมดอายุให้ชัดเจนก่อนซื้อสินค้า และควรตรวจสอบคุณลักษณะของสินค้า เช่น สีและกลิ่น ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ พร้อมทั้งแจ้งว่า ผู้ที่นำสินค้าปลอม ไม่ได้คุณภาพมาจำหน่าย มีความผิดตามกฎหมาย โทษถึงจำคุก

ประเด็นร้อน 27 ม.ค.

ประเด็นร้อนในวันนี้ยังต้องจับตาฝีมือรัฐบาลว่าจะสามารถกล่อมกลุ่มพันธมิตรให้เลิกชุมนุมได้สำเร็จหรือไม่หลังนายกรัฐมนตรียอมเปิดโต๊ะเจรจาแล้ว หากไม่สำเร็จจำต้องยกระดับการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาบังคับใช้หรือไม่ เพราะเริ่มได้กลิ่นการก่อเหตุวางระเบิดแล้ว ขณะที่ด้านเศรษฐกิจนั้นดูจะเริ่มร้อนแรงและน่าติดตามหลายเรื่อง ทั้งประชาวิวัฒน์ การแก้ไข พ.ร.บ.เช็ค และการล็อบบี้ของค่ายรถยนต์
1.ต้องติดตามคือการปักหลักชุมนุมของเสื้อเหลือง กลุ่มพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อรอดูท่าทีของรัฐบาลต่อ 3 ข้อ ที่เรียกร้องไปยังรัฐบาลก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีทีท่าจะสนใจทำตาม จึงต้องจับตาว่าจะขับเคลื่อนมวลชนไปในทิศทางไหน หรือมีกิจกรรมอะไรออกมาหรือไม่

2.ความขัดแย้งทางความคิดกับกลุ่มพันธมิตรยังไม่จางหายก็ต้องเงี่ยหูฟังการชุมนุมของคนเสื้อแดง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) วันนี้แกนนำตั้งแต่ ธิดาถาวรเศรษฐ์ จตุพร พรหมพันธุ์ จะได้ปรึกษาหารือกันถึงทิศทางการขับเคลื่อนในการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ ว่าจะออกมารูปแบบไหน ทั้งการรวมตัวกันที่หน้าเรือนจำและเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือการดาวกระจายไปตามที่ต่างๆ

3.การประชุมสภานัดที่สองวันนี้วาระสำคัญยังอยู่ที่การตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเป็นการตั้งกระทู้ถามสดครั้งแรกในการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยนี้ดังนั้นต้องติดตามว่ากระทู้ที่ฝ่ายค้านอัดอั้นมานานหลายเดือนจะมีอะไรเด็ดมากน้อยแค่ไหน เพราะนี่จะเป็นการเร่งอุ่นเครื่องเรียกน้ำย่อยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ใกล้เข้ามาทุกที

4.หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ปะทุความรุนแรงขึ้นมาอีกระลอกช่วงนี้ เจ้าหน้าที่องค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) เข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่กระทรวงมหาดไทย เวลา10.30 น. ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสให้ได้ร่วมแลกเปลี่ยนหารือสะท้อนรับฟังปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่ายอันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้นานาประเทศเข้าใจ

5.หลังจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์เด้งขึ้นมาเกือบ 18 จุด ทำให้นักลงทุนไทยเริ่มใจชื้น วันนี้ 09.00 น. ใครอยากรู้นักลงทุนขาใหญ่คิดอย่างไรกับตลาดหุ้นไทย ต้องฟังสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะเปิดเผยผลวิจัยที่ได้จากการสำรวจมุมมองของนักลงทุน

6.การสะสางหนี้ก้อนโตกว่า 7,400 ล้านบาท ของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น ของตระกูลลาภวิสุทธิสินที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษก็ชวนติดตาม วันนี้เวลา 09.30 น. จะมีการประชุมเจ้าหนี้ที่โรงแรมเจ อเวนิว โซนพาต้า ปิ่นเกล้างานนี้ต้องจับตาว่าสถาบันการเงินของรัฐที่นำทีมโดยกรุงไทย บลจ.กรุงไทยจะตัดสินใจอย่างไร จะให้กลุ่มใดเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูปิคนิค ระหว่างกลุ่มเวิลด์แก๊สที่มีทุนหนาเป็นกลุ่มสามารถคอร์ปอเรชั่นหนุนอยู่เบื้องหลัง กับกลุ่มตัวแทนลูกหนี้ นำโดยพิมล ศรีวิกรม์ อดีตนักการเมืองค่ายไทยรักไทย ที่ว่ากันว่าหนีเงาร่างของคนในตระกูลลาภวิสุทธิสินไม่พ้น

7.คณะเศรษฐศาสตร์ และศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูปมหาวิทยาลัยรังสิต จัดงานสัมมนาและเผยแพร่บทวิเคราะห์ เรื่อง "ประชานิยมประชาวิวัฒน์ : ผลต่อความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ และฐานะทางการคลัง" มีกูรูใหญ่อย่าง อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต พรายพล คุ้มทรัพย์อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิยาลัยธรรมศาสตร์ ณัฏฐพงศ์ทองภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง นิด้า วิทยากร เชียงกูลคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคมมหาวิทยาลัยรังสิต และอนุสรณ์ ธรรมใจอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ณ ห้อง 1-308 ชั้น 3 อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ มหาวิทยาลัยรังสิตเมืองเอก ปทุมธานี ในเวลา 09.30 น.

8.สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) จัดเสวนาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ห้องประชุม 1 สกว. ชั้น 14 อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์ เรื่องนี้ธุรกิจควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะ พ.ร.บ.นี้ กำหนดให้ยกเลิกความผิดอาญากับคดีเช็ค โดยคดีเช็คที่ค้างอยู่ในศาลอาญาให้โอนเป็นคดีแพ่งและคดีใดที่อัยการเป็นโจทก์ให้เรียกผู้เสียหายมารับโอนคดีไปดำเนินการต่อเองและยังกำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ต้องกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข การอนุมัติให้บุคคลมีหรือใช้เช็ค เพราะที่ผ่านมาไม่มีการควบคุม จึงทำให้มีการเปิดเช็คกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้อย่างอิสระไร้การตรวจสอบคดีเช็คเด้งจึงมีจำนวนมาก

9.สมาชิกหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยจะเข้าหารือกับชัยวุฒิบรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม คาดว่าจะหารือเรื่องของโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ที่ค่ายรถยนต์จากอเมริกาต้องการให้รัฐบาลช่วยชัยวุฒิสนับสนุนโครงสร้างภาษีเกี่ยวกับพลังงานทดแทนอี85 ให้เท่าเทียมกับเครื่องยนต์ไฮบริดจากค่ายญี่ปุ่น

ผบ.ทบ.ขอเวลาคุยเขมรถอนป้ายประณามไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงคืบหน้าในการเจรจาให้ทางกัมพูชาถอนป้ายประณามไทย ว่า ขณะนี้ได้มีการพูดคุยเจรจากันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าถามว่าเมื่อไร แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาพอสมควร หากพูดกันไปมาจะไม่จบ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมทำมาโดยตลอด รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งถือเป็น 2 ช่องทางในการเจรจาพูดคุยกัน ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนมีอยู่ 3 มาตรการ คือ 1.เจรจา 2.เพิ่มมาตรการ และ 3. การใช้กำลัง เราจะข้าม 1 ไป 3 คงไม่ได้ เราอยู่ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านต้องพูดคุยกันให้รู้เรื่อง และประชาชน ทั้ง 2 ฝ่ายไม่อยากเห็นการสู้รบกันตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ไม่ว่าฝ่ายใดไม่ว่า นึกจะทำอะไรก็ทำคงไม่ได้ จะต้องมีคนรับผิดชอบและมีคนสั่งการ โดยเฉพาะปัญหาระหว่างประเทศเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องสั่งการเป็นความรับผิดชอบ เป็นกรอบเป็นสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะโยนไปให้ใครรับผิดชอบ มันเป็นหน้าที่เป็นกฎหมาย จึงอยากเรียนให้สังคมทั่วไปได้รับทราบ



พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ชายแดนพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่จะใช้กำลังไม่ได้ เพราะเป็นกติกา เป็นกฎหมาย และเป็นพันธะสัญญาที่คุยกันไว้ว่า หากมีปัญหาในพื้นที่ที่มีปัญหาต้องพูดจากัน ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนี้มาตลอด จนกว่าตรงนั้นจะเรียบร้อยมีเส้นแบ่งเขตที่ชัดเจน เมื่อมีความชัดเจนต่างฝ่ายก็ต่างถอย ถ้าเราไปล้ำเขตแดนก็ต้องถอยออกมา ถ้าเขาล้ำเข้ามาก็ต้องถอยออกไป ซึ่งเราอยู่ด้วยกันด้วยกติกา ไม่ใช่อยู่ด้วยความรู้สึก หากอยู่ด้วยความรู้สึกจะทะเลาะกัน และรบกันทุกวัน ประเทศเรามีเขตชายแดนทั้งหมด 5 พันกว่ากิโลเมตร ทางบก 4 พันกว่ากม. ส่วนที่เหลือเป็นทางน้ำ และทางทะล ชายแดนไม่มีรั้ว มีแต่หลักเขตที่พังลงทุกวัน หรือขยับกันไปมาขอให้ใจเย็นๆ ขอให้กำลังใจทหาร

พม่า-กะเหรี่ยงรบหนัก ผู้หนีภัยสงครามทะลักเข้าไทย

ผู้หนีภัยจาการสู้รบระหว่างหารรัฐบาลพม่ากับฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. กว่า 100 คน ต่างเข้ามาอาศัยในเขตไทยอย่างอิสระ บริเวณบ้านเงาไฝ่ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โดยทั้งหมดไปอาศัยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ และบริเวณตะเข็บชายแดน เนื่องจากได้เห็นทหารรัฐบาลพม่าพร้อมด้วยลูกหาบอาวุธกระสุนปืนจำนวนมากเข้ามาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเมย จึงเกิดความกลัวและเกรงว่าจะถูกจับไปเป็นลูกหาบ และหนีมาอยู่ในเขตไทย ขณะที่ อส.อำเภอพบพระ ได้เข้าไปดูแลรักษาความสงบ แต่ไม่ได้จัดพื้นที่พักพิงรองรับ เพราะเห็นว่าสถานการณ์การสู้รบยังไม่น่าจะรุนแรง

ด้านทหารพม่าได้เสริมกำลัง และยังรบกับฝ่ายกะเหรี่ยงบริเวณตรงข้ามบ้านห้วยน้ำนัก รวมถึงบ้านห้วยแห้ง ต.ช่องแคบ อ.พบพระ โดยทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธปืน ค.120 , ค.60 ยิงใส่กันเป็นระยะ แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเขตไทย

ประเด็นร้อน24ม.ค.

ผลจากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ยังคงพุ่งไม่หยุด ทำให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เริ่มระส่ำอีกรอบ เพราะเงินอุ้มดีเซลไม่ให้ราคาทะลุ 30 บาทต่อลิตร ร่อยหรอลงทุกวัน

1.วันที่ 24 ม.ค.นี้ กบง. ซึ่งจะมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน นั่งเป็นประธาน จึงได้เรียกประชุมเพื่อพิจารณามาตรการดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท โดยจะเสนอการเพิ่มเพดานการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 2,000-3,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีวงเงินอยู่ 5,000 ล้านบาท

2.ฟากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็มีประเด็นหลายเรื่องเตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณา เริ่มจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตของรัฐวิสาหกิจ เรื่องห้ามผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้ใดเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจเกินกว่า 3 แห่ง และห้ามรัฐวิสาหกิจทุกแห่งกำหนดระเบียบหรือข้อบังคับให้สามารถเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้แก่คู่สมรส หรือผู้ติดตามที่ไม่ได้มีหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจ ที่ร่วมเดินทางไปกับผู้ปฏิบัติงาน

กระทรวงการคลังเสนอให้พิจารณาการทบทวนการกำหนดราคากลางใหม่ตามวาระแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรมความซื้อสัตย์ สุจริตและต่อต้านการทุจริตและโครงการการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในกระบวนการจัดจ้างของทางราชการ


กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ ในการกำหนดกรอบวงเงินและติดตามประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ 2554

3.หลังจากมีผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิออกมาชุมนุมในอาคารผู้โดยสารตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. เรียกร้องให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) จ่ายชดเชยค่าเสียงโดยเร็ว ล่าสุดคณะกรรมการไตรภาคีจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติรายละเอียดเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนได้มากขึ้น

4.วุฒิสภามีประชุมเป็นครั้งแรกของสมัยสามัญทั่วไป โดยมีวาระที่สำคัญ คือ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่สภาส่งมาให้วุฒิสภากลั่นกรอง โดยมีสาระสำคัญคือผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติการตามหน้าที่ของกรรมาธิการต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5.ต้องติดตามการหารือร่วมกันของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมีขึ้นในช่วงเย็นที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าจะยอมรับกับมติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุนที่มา สส.เขตเดียว เบอร์เดียว 375 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 125 คน หรือก่อนจะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ในวันที่ 25 ม.ค.

6.ตั้งแต่เช้า ม.ล.วัลวิภา จรูญโรจน์ นักวิชาการอิสระของเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ จะเดินทางไปยังกัมพูชาเพื่อไปติดต่อทนายความร่วมต่อสู้ให้กับนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกจับกุมข้อหารุกล้ำดินแดนกัมพูชา

ขณะที่เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ซอยสุขุมวิท 49 นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ จะแถลงชี้แจงเรื่องการจับกุมทั้งหมดที่เกิดขึ้น

7.ปิดท้ายในตอนเย็น นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีที่ได้รับพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ คือ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ณ โรงพยาบาลศิริราช

8.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แถลงสรุปผลการดำเนินงานในการจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2553 พร้อมชี้แจงวิธีปฏิบัติงานเพื่อป้องกันการทุจริต ที่ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่

5คนไทย เดินทางกลับเช้าวันนี้

5 คนไทย ที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินคดีล้ำแดนโดยให้รอลงอาญา เดินทางกลับประเทศเช้านี้ "ชวนนท์" ยันไม่ทอดทิ้ง "วีระ-ราตรี" คาดตัดสิน 1 กพ.

การเดินทางกลับประเทศของ 5 คนไทย ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว ได้แก่ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์, ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ , นายตายแน่ มุ่งมาจน, นางนฤมล จิตรวะรัตนา และ นายกิชพลธรณ์ ชุสนะเสวี นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า คนไทยทั้ง 5 คนจะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ PG938 (08.15) PG932 (10.50) และ PG581 (11.05) ในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ศาลชั้นต้นกัมพูชา อ่านคำตัดสิน 5 คนไทย โดยอนุญาตให้กับประเทศไทยได้ทันที โดยศาลเห็นว่า พยานหลักฐานทั้งหมดเห็นชัดว่าบุคคลทั้ง 5 นั้นมีเจตนาเข้าเขตแดนกัมพูชาจริง ศาลตัดสินให้ปรับเงินคนละ 1 ล้านเรียล หรือประมาณ 1 หมื่นบาท และโทษจำคุก 9 เดือน แต่โทษจำคุก เนื่องจากทั้ง 5 คนอยู่ในเรือนจำมาตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ส่วนระยะเวลารับโทษที่เหลืออีก 8 เดือน ศาลให้รอลงอาญา ดังนั้นคนไทยทั้ง 5 สามารถกลับบ้านได้เลย แต่ช่วง 8 เดือนที่ถูกรอลงอาญา ห้ามทั้ง 5 คนกระทำผิดซ้ำเดิม คือห้ามเข้าเขตแดนกัมพูชาโดยผิดกฎหมายอีก

ก่อนหน้านี้ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ทั้ง 5 คนไทยจะเดินทางกลับประเทศ ส่วนกรณีของนายวีระ และ น.ส.ราตรี ขอย้ำว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่ทอดทิ้ง จะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องการประกันตัว และเร่งรัดคดี โดยแนวทางคงไม่แตกต่างกับ 5 คนไทย คาดว่าจะนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีในวันที่ 1 ก.พ.นี้

ประเด็นร้อน 21 ม.ค.

วันศุกร์สุดสัปดาห์ ชีพจรเศรษฐกิจมักจะเริ่มชะลอลง ประเด็นร้อนแรงจะกลับมาเป็นเรื่องการเมืองแทน แต่ทิ้งท้ายสัปดาห์นี้ก็ยังมีประเด็นร้อนทางเศรษฐกิจให้ติดตามอยู่บ้าง

1.นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวานผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจในปี2554 และ 2555 ตามปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เงินเฟ้อหรือราคาสินค้า ราคาน้ำมัน ค่าแรง การใช้จ่ายภาครัฐ ฯลฯ

ทั้งนี้ ปัจจัยทั้งหมดอาจจะมีผลให้อัตราการเจริญเติบโต (จีดีพี) ปีนี้และปีหน้าเติบโตได้ในระดับที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ ธปท.คาดว่าจีดีพีปีนี้น่าจะโตระดับ 3-5% แต่หากเงินเฟ้อสูงมากจนธปท.ต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เศรษฐกิจอาจจะขยายตัวไม่ถึงก็ได้

2.รมว.อุตสาหกรรมจะลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อไปตรวจโรงงานที่เข้าข่าย 11 กิจการรุนแรงว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 67 วรรค2 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในการรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนหรือไม่

3.งานใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ 3 สมาคม คือสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยจัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี พ.ศ. 2554 เรื่อง "อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2554" ณ ห้อง Plenary Hall 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อแจกแจงข้อมูลว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจะน่าเป็นห่วงว่าจะเกิดฟองสบู่หรือไม่ ทำไมธนาคารแห่งประเทศไทยจึงชะลอการปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์

4.กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และมหาวิทยาลัยศิลปากรจัดโครงการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถผู้ประกอบการ จัดทำโครงการนำร่องและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และโครงการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการใช้เครื่องมือออกแบบ ที่อาคารหอประชุมมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระเพื่อพัฒนาสินค้าส่งออกของไทย

5.ติดตามการตามจับโจรใต้ที่ปฏิบัติการถล่มฐานที่ตั้งทหารร้อย.ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ตั้งอยู่ที่ถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ อ.ระแงะจ.นราธิวาส จนเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ6 นาย เป็นเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญครั้งรุนแรง โดยฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลังทหารและตำรวจกว่า 300 นาย ปูพรมค้นหาตัวคนร้ายตลอดทั้งวัน ซึ่งเชื่อว่าทำเป็นทีมรวม 30 คน และมีเกลือเป็นหนอนเกิดขึ้น ขณะที่นายกฯ ระบุว่าเป็นฝีมือกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุป่วนมาหลายครั้ง

6.ความขัดแย้ง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี กลุ่ม 3 พี จากพรรคเพื่อแผ่นดินวิเคราะห์ว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลยังเห็นขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ในประเด็นสูตรระบบเลือกตั้ง ก็เชื่อว่านายกฯ จะตัดสินใจยุบสภาแน่

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของพรรคร่วมยังคงยืนยันเสียงแข็งว่าต้องเป็นสูตร400+100 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเพิ่งประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ก็ไม่เปลี่ยนจุดยืนในสูตร 375+125

7.อีกเรื่องคือความคืบหน้าการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ติดบ่วงอยู่ที่ประเทศกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้รัฐบาลจะมีข้อสรุปถึงแนวทางการช่วยเหลือ โดยได้นัดรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น รมว.ต่างประเทศ รมว.กลาโหม และผบ.ทบ. มาหารืออีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่20 ม.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกฯ ติดภารกิจ เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานให้ทางการกัมพูชาเร่งตัดสินคดี 7 คนไทยเร็วกว่าที่ทางกัมพูชากำหนดไว้ในวันที่ 1 ก.พ. ได้หรือไม่ เพราะเห็นว่าล่าช้าเกินไป

8.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แถลงผลประกอบการไตรมาส 4 และตลอดทั้งปี 2553 พร้อมแผนการดำเนินงานปี2554 ซึ่งต้องจับตามอง เพราะที่คนบอกว่าปีที่แล้วเศรษฐกิจแย่ แต่ธนาคารฟาดกำไรกันเป็นว่าเล่น อย่างธนาคารกรุงเทพ ปี 2553 มีกำไรสุทธิ 24,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% ส่วนเครือธนาคารกสิกรไทย กำไรสุทธิ 20,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 36.07%

9.การประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)ที่กรมพัฒนาที่ดิน เวลาบ่ายโมงเป็นต้นไป งานมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์รองนายกฯ เป็นประธาน วาระสำคัญคือคณะบริหารหนี้เสนอของบประมาณกว่าหมื่นล้านแก้ไขหนี้ของเกษตรกร หลังจากที่ผ่านมา รัฐบาลตั้งงบซื้อหนี้ในปี 2554 เพียง 500 ล้านบาท จากหนี้เกษตรกรทั้งหมดกว่า 3 หมื่นล้านบาท งานนี้มีขู่หากไม่ได้ 28 ม.ค. สมาชิก กฟก. 3 แสนรายจะเข้ากรุงเทพฯ

10.จับตากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิที่ชุมนุมอยู่หน้าประตู 4 ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิกว่า 100 คนเรียกร้องให้บริษัทท่าอากาศยานไทยหรือทอท. เร่งจ่ายค่าชดเชยผู้ได้รับความเดือดร้อนว่าจะเพิ่มความเข้มข้นในการชุมนุมมากขึ้นอย่างไรในวันนี้

ไฟไหม้คาร์แคร์ เผาวอดรถป้ายแดง จว.อุทัยธานี

ที่ร้านอาทิตย์อุทัยคาร์แคร์ เลขที่ 7/4 ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยต้นเพลิงกิดขึ้นภายในสำนักงาน และเป็นห้องนอนรวม กับห้องเก็บของจำพวกน้ำมั้นเครื่อง เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในมีเชื้อเพลิงอยู่เป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่พักใหญ่ จึงควบคุบเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงได้เผาผลาญอาคารเสียหายเกือบทั้งหมด นอกจากนี้รถยนต์ป้ายแดง 2 คันที่นำไปล้าง และรถจักรยานยนต์อีก 1 คันได้รับความเสียหาย รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ และอุปกรณ์คาร์แคร์ด้วย

นางนัยนา บรรทับ เจ้าของคาร์แคร์บอกว่า ขณะที่เกิดเหตุนอนหลับอยู่ แต่ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น จึงลุกขึ้นมาดูก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ อย่างไรก็ตามตำรวจกำลังตรวจสอบว่า สาเหตุเกิดจากอะไร

ทหารพม่าปล่อย6คนไทยเเล้ว

ผวจ.ตาก เผย ทหารพม่าปล่อย 6 คนไทยเเล้ว เดินทางกลับปลอดภัยดี หลังทีบีซี.เข้าประสาน

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ทางการพม่าด้านตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ได้ปล่อยตัวราษฎรไทย 6 คนมาแล้ว โดยขณะนี้ได้เดินทางไปถึงที่บ้านแม่ออกฮู หมู่ที่ 4 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระแล้ว ซึ่งคนไทยทั้งหมดได้เดินทางมาด้วยความปลอดภัยและก่อนหน้านี้นายหม่อชิ และนายเมธี คีรีทัศนัย 2คนไทยที่ถูกจับและได้หลบหนีทหารออกมาที่บริเวณห้วยน้ำดั้น บ้านรวมไทยพัฒนา ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ โดยระบุว่าถูกทหารพม่าใช้หาบลูกกระสุนปืนและทุบตี จึงหลบหนีมาได้ในระหว่างทาง

สำหรับ 6 คนไทยที่พม่าปล่อยตัวมานั้น เป็นราษฎรบ้านแม่ออกฮู ทั้งหมด โดยเป็นเครือญาติกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำว่าไปมาอย่างไรถูกถูกจับ โดยราษฎรทั้งหมดยืนยันว่าได้เข้าไปฝั่งพม่าบริเวณตรงข้ามบ้านแม่ออกฮู เพื่อไปหาปลาและเก็บข้าวโพด ลึกประมาณ 7 กิโลเมตร และพบกับทหารพม่าที่กำลังลาดตระเวนจึงถูกจับกุม

อย่างไรก็ตาม การปล่อยตัวมาครั้งนี้ ทางคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า (ทีบีซี.) อ.แม่สอด ได้ประสานกับทีบีซี. ของพม่าที่ จ.เมียวดี เพื่อขอให้ปล่อยตัวราษฎรไทยกลับมา โดยการอำนวยการของ พ.อ.สุภโชค ธวัชพีระชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด ในฐานะประธานทีบีซี. ฝ่ายไทย

ประเด็นร้อน 20 ม.ค.

ประเด็นร้อนของช่วงนี้ต้องแบ่งเป็น2 ประเด็น คือ ประเด็นเศรษฐกิจและการเมือง เพราะต่างร้อนแรงไม่แพ้กันโดยประเด็นเศรษฐกิจ คือเรื่องราคาสินค้า ส่วนประเด็นการเมือง ก็ยังคงเป็นเรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับตัวไป

1.วันที่ 20 ม.ค. นายลักษณ์วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. จะลงนามบันทึกความร่วมมือจัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิตแก่เกษตรกร กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และบางจากปิโตรเลียม ณ ห้องแกรนด์บอลรูมโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทาราแกรนด์กรุงเทพฯ (ลาดพร้าว) โดยศูนย์ดังกล่าวจะจัดตั้งขึ้นเพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด

2.นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังจะร่วมสัมมนากับเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับจังหวัด ประจำปี 2554 ที่มาจากทั่วประเทศ แม้รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาต่อยอดนโยบายกองทุนหมู่บ้านของรัฐบาลชุดก่อน แต่ก็อัดฉีดเงินเพิ่มให้แก่หมู่บ้านที่มีศักยภาพ เพราะรู้ดีว่าเงินกองทุน 1 ล้านบาทนั้นอาจจะไม่เพียงพอ ใครสนใจฟังเชิญที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ถนนรัชดาภิเษก

3.แม้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะมีพันธมิตรเป็นต่างชาติเข้ามาร่วมขยายธุรกิจ แต่ธนาคารเกียรตินาคินนายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ ยังประกาศขอเป็นธนาคารขนาดเล็กที่จิ๋วแต่แจ๋วและจัดงานแถลงวิสัยทัศน์ธุรกิจปี 2554 ของธนาคารให้ลูกค้าประชาชนและผู้ถือหุ้นให้ได้ทราบ

4.จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ หลังจากนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ แกนนำกลุ่มฯ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ถูกส่งตัวฝากขัง 12 วัน เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพเมื่อศาลยกคำร้องการฝากขังทั้งสองคนด้านม็อบที่ปักหลักบริเวณทำเนียบรัฐบาลกดดันให้รัฐบาลช่วยเหลือ 7 คนไทยก็อ่อนล้า ต้องดูว่าจะปรับกลยุทธ์สู้ในภาวะที่ตีบตันลงเรื่อยๆ อย่างไร แม้ว่าจะประกาศกร้าวชุมนุมยืดเยื้อ ในส่วนของศาลกัมพูชานัดชี้ชะตาตัดสิน 7 คนไทยคดีบุกรุกดินแดนในวันที่ 1 ก.พ.นี้

5.ยังคงอึมครึมว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสูตรระบบเลือกตั้ง สส.เขตเดียว คนเดียว และบัญชีรายชื่อจะลงเอยสูตรไหน หลังจากพรรคร่วมฯ โยนสูตร 400+125 เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ยังยืนยันใช้สูตร 375+125 ดังนั้นในช่วงนี้ ก่อนจะถึงวันที่ 24 ม.ค.ที่แต่ละพรรคได้นัดหารือเพื่อพิจารณาท่าทีสูตรระบบเลือกตั้ง ซึ่งประธานสภานัดพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 25 ม.ค. จะมีความเคลื่อนไหวคึกคัก รวมถึงกระแสข่าวการต่อรองงบประมาณผลประโยชน์เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจบลงด้วยดี

6.แกนนำเสื้อแดงจะเดินทางไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ ถึงการชุมนุมใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค.นี้โดยแกนนำยืนยันว่า จะปรับเวลาเริ่มชุมนุมในช่วงเวลา 13.00 น. ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 15.00 น. จะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมต่อที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงเย็น

7.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะแถลงผลการสืบสวนสอบสวนกรณีผู้เสียชีวิต89 คนจากเหตุการณ์ก่อความไม่สงบที่สี่แยกราชประสงค์ ณ ห้องแถลงข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ

8.แวดวงข้าราชการต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกฯเป็นประธาน ในช่วงเวลา 10.00 น. ถือเป็นการประชุมนัดแรกประจำปี 2554 หลากหลายวาระนำมาถก ติดตามความต่อเนื่องตั้งสหภาพข้าราชการ มีการรายงานความคืบหน้าประการใด ตกเย็นนายกฯ ร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพบกปี 2554 ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก คาดบิ๊กเหล่าทัพตบเท้าร่วมงานคับคั่ง

9.ติดตามปัญหาเครื่องอุปโภคบริโภคก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค วันที่20 ม.ค. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.สำนักนายกฯ แถลงผลการทดสอบความไม่ปลอดภัยใน "ปืนอัดลมเลเซอร์" ซึ่งจะชี้ให้เห็นถึงอันตรายจากความแรงของปืนและแสงเลเซอร์สามารถทำอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้จะมีการนำผลวิจัยของนพ.อติศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็กด้วย

ทหารพม่าจับ 8 คนไทยที่ อ.พบพระ เร่งประสานปล่อยตัว

เมื่อวันที่ 19 มกราคม ทหารรัฐบาลพม่าจับราษฎรไทย บ้านออกฮู ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 8 คนไทยบริเวณบ้านห้วยโพมูบอ ในเขตชายแดนของพม่า ขณะที่คนไทยทั้งหมดได้ข้ามไปหาปลาและระหว่างนั้น ทหารรัฐบาลพม่าได้ลาดตระเวนไปพบ จึงเข้าทำการจับกุมทั้งหมด ทราบชื่อคนไทยทั้งหมด คือ นายเมธี คีรีทัศนัย , นายแพทู คีรีไกลวัลย์ , นายตะนุ คีรีไกลวัลย์ ,นางมะหมี่ คีรีไกลวัลย์ , นายหม่อชิ , นางตะลา , นางปาละโมและนายพะคึ

โดยทั้งหมดทหารพม่าได้ควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับยุทธวิธีที่ 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของไทยและแกนนำชาวบ้านพยายามติดต่อทหารพม่าเพื่อให้ปล่อยตัวราษฎรไทยทั้งหมด แต่การติดต่อประสานงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะทหารพม่าเป็นทหารต่างพื้นที่ซึ่งได้เดินทางเข้าไปปราบปรามทหารฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า การจับกุมคนไทยของทหารพม่า เนื่องจากมีคนไทยเข้าไปเก็บข้าวโพดที่ปลูกไว้ในฝั่งพม่า 5 คน ส่วนอีก 3 คน เข้าไปหาปลา เมื่อพบกับฝ่ายทหารพม่าจึงถูกจับกุมไว้

ผบ.ตร.ห้ามนำเข้าบทความใจ อึ้งภากรณ์

ผบ.ตร.สั่งห้ามนำเข้าสื่อสิ่งพิมพ์ต่างประเทศของ"ใจ อึ้งภากรณ์"หลังมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง ภายใต้บทความภาวะวิกฤตของประเทศไทยและต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 702/2553 เรื่อง ห้ามสั่งเข้าหรือนำเข้าสิ่งพิมพ์เพื่อเผยแพร่ในราชอาณาจักร

คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ด้วยปรากฏว่าสิ่งพิมพ์จากต่างประเทศ คือ THAILAND’S CRISIS & the Fight for Democracy Giles Ji Ungpakorn มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดง อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท

อาศัยอำนาจตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ห้ามสั่งเข้า หรือนำเข้าเพื่อเผยแพร่ในราชอาณาจักร รวมทั้งให้ริบและทำลายซึ่งสิ่งพิมพ์ดังกล่าวข้างต้น

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553 พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้สื่อสิ่งต่างประเทศดังกล่าว เขียนโดยนายนายใจ อึ้งภากรณ์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แปลความหมายเป็นภาษาไทยว่า"ภาวะวิกฤตของประเทศไทยและต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย"

ประเด็นร้อน19ม.ค.

ประเด็นร้อนทางด้านเศรษฐกิจในขณะนี้ ยังคงเทไปในเรื่องของการดูแลราคาสินค้าของรัฐบาลที่ยังแก้ไขปัญหาไม่ตก ส่วนประเด็นการเมืองก็เป็นเรื่องของการชุมนุมของคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ประท้วงรัฐบาลกัมพูชาให้ปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คน

1.นายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษากฎหมายชาวไทย จะเดินทางไปพบกับคนไทยทั้ง 6 คน ที่ได้รับการประกันตัว ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ รวมไปถึงเข้าพบนายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่เรือนจำเปรย์ซอร์ ประเทศกัมพูชา เพื่อสอบถามข้อมูลเพื่อทำเรื่องยื่นขอประกันตัวต่อศาลกัมพูชาในชั้นฎีกาทันที หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยังไม่ให้ประกันตัวนายวีระ เพราะถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ

2.ตามติดสถานการณ์การชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุมที่ประเทศกัมพูชา วันนี้จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่การจราจรเพิ่มเติมบริเวณถนนพิษณุโลก หลังจากสร้างการชุมนุมในช่วงหลายวันที่ผ่านมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมากขณะเดียวกันต้องติดตามเช่นกันว่าการชุมนุมจะมีการยกระดับหรือไม่หลังจากที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำคนสำคัญถูกควบคุมตัวในข้อหาการก่อการร้ายจากการร่วมชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกนายภาณุ อุทัยรัตน์รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. นายถาวรเสนเนียม รมช.มหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อทำความเข้าใจในการใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาใช้แทน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในบางพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติยกเลิกไปก่อนหน้านี้

4.คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เตรียมประชุมเพื่อพิจารณาลำดับความสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ที่จะต้องมีการเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในช่วงสมัยประชุมสามัญทั่วไปที่กำลังมีขึ้นในวันที่21 ม.ค. อาทิ ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนครูและวิทยฐานะร่าง พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ร่างพ.ร.บ.เงินเดือนตำรวจ ร่าง พ.ร.บ.การจัดการที่ดินและที่สงวนหวงห้ามของรัฐและร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะเป็นต้น

5.การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีวาระเชิญ สว.ที่เสนอคำแปรญัตติแก้ไขมาตรา 93-98 เกี่ยวกับจำนวน สส.เขตเดียวเบอร์เดียว 375 และบัญชีรายชื่อ 125 คน นอกจากนี้ต้องจับตาไปที่ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนาว่าจะมีความเห็นอย่างไรหลังจากพรรคภูมิใจไทยเสนอสูตร สส.ใหม่ คือ 400+125 คนกลางที่ประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 18 ม.ค.

6.คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) 2550 จัดงานสัมมนาและแสดงความคิดเห็นเรื่อง เศรษฐกิจฟื้นตัวพลังงานติด โดยมีนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. นายนิพนธ์พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย นายสมชัย สัจจพงษ์ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจากปิโตรเลียม ร่วมแสดงความคิดเห็น ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ท่ามกลางตลาดโลกที่กำลังรอลุ้นว่าราคาน้ำมันดิบจะเกิน100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลหรือไม่

7.ประธานกรรมการเอสเอ็มอีแบงก์พร้อมด้วยกรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ระหว่างSME Bank กับ ส.ส.ท. ณ ห้องแก้ววิเชียร ชั้น 11 SME BankTower

8.กรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย แถลงข่าวผลการดำเนินงานปี 2553 และทิศทางการดำเนินงานปี 2554 ณ ห้องจูเนียร์บอลรูม 2 ชั้น 3 โรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม สุขุมวิท

9.รมว.คลัง เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนากลุ่มประเทศสมาชิกสถาบันประกันเงินฝากในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก APRC (Annual Meeting & International Conference) ครั้งที่ 9 ประจำปี 2554 "Lessons Learned and Challenges of Deposit Insurers in Dealing with Crisis" ณ ห้องรอยัลบอลรูม โรงแรมโอเรียนเต็ล

สิงห์ สิบล้อขี้เมาก่อเหตุอนาจารย่องเข้าบ้านแม่เฒ่าวัย 70

เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุคนงานขับรถสิบล้อบรรทุกดิน ก่อเหตุทำอนาจารพยามจะเข้าไปข่มขื่นแม่เฒ่าที่มีอาการป่วยเป็นโรคเรื้อน หูตึง และรูปร่างแคระแกน ที่บ้านเลขที่ 13 ม.9 ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

จากการเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านก่อด้วยอิฐบล็อกชั้นเดียว ชาวบ้านมุงดูหลายสิบคน มีนางน้อย พุ่มทอง อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านนั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามนางน้อย เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. นายอ๊อด อายุประมาณ 50 ปี เป็นคนงานขับรถบรรทุกสิบล้อ ได้เข้าก่อเหตุงัดประตูบ้านเข้ามาในบ้านด้วยอาการมึนเมาสุราพยามจะข่มขืนตน แต่ตนพยายาม ขัดขืน แต่นายอ๊อดใช้กำลังทุบตีที่ลำตัว และศีรษะหลายครั้งจนระบมไปทั้งตัว ด้วยความเจ็บปวดจึงได้ร้องให้คนช่วย ต่อมาเพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้อง จึงพากันมาช่วยหลายสิบคน นายอ๊อดเห็นว่ามีชาวบ้านมาช่วยจึงได้ใช้ช่วงความชุลมุนและอาศัยความมืดวิ่ง หลบหนีไปได้

นางน้อย กล่าวอีกว่า ช่วง 2 คืนที่ผ่านมา เคยถูกนายอ๊อดข่มขืนมาแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งความเพราะนายอ๊อดขู่ว่าจะทำร้าย ประกอบกับตนอยู่บ้านเพียงลำพัง สามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนลูกชายสองคนก็หายไปทำงานต่างจังหวัดนานแล้วไม่เคยกลับมา

ด้านนายเกียรติ พรมเงิน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 ม.9 ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อคืนได้ร่วมกับชาวบ้านหลายสิบคน มาที่บ้านของนางน้อย เนื่องจากได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเข้ามาที่ภายในบ้าน พบนางน้อยอยู่ในอาการหวาดกลัวนอนหงายอยู่บนเตียง ส่วนนายอ๊อดอยู่ในสภาพกางเกงหลุดลุ่ย เมื่อเห็นคนมาจำนวนมากจึงวิ่งหลบหนีไปกับความมืด

ด้าน พ.ต.ท.โยธิน สมบูรณ์ศิริ รองผู้กำกับ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลทรงธรรม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีตั้งแต่เมื่อคืนที่ได้รับแจ้งเหตุแล้ว พร้อมสั่งการให้ พ.ต.ท.เกรียงไกล รินทพล สารวัตรเวรอาญาสถานีตำรวจภูธรทรงธรรม เร่งดำเนินคดีออกหมายจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา บุกรุกบ้านผู้อื่นในยามวิกาล และก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา.

พระราชทานเพลิง 2 ตำรวจ.ที่จ.กำแพงเพชร เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขณะควบคุมตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์

ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 .เป็นประธานในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ศรีนวล และ ดาบตำรวจ อภิศักดิ์ เผ่าฟู ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขณะควบคุมตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์
ที่ เมรุ วัดคูยาง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พล.ต.ท.อาจิน โชติวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 เป็นประธานในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ศรีนวล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร และ ดาบตำรวจ อภิศักดิ์ เผ่าฟู ผู้ช่วยพนักงานสอบสวนฯ ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขณะควบคุมตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยมีนายวันชัย สุทิน ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พล.ต..ต.ทวีชัย วิริยะโกศล พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พ.ต.อ.ธนวรรธน์ อยู่คง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองมาร่วมในการประกอบพิธีท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว และเพื่อนข้าราชการตำรวจ รวมถึงประชาชนในพื้นที่
การ จากไปของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสอง ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของของครอบครัว และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่านได้ทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันราษฎร์ อันสมควรนำมาเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจทุกคน ซึ่งการจากไปในครั้งนี้ได้รับการยกย่องจากข้าราชการตำรวจและผู้ที่มาร่วมงาน ให้ท่านทั้งสองเป็นวีรบุรุษในดวงใจของทุกคนตลอดไป
และการสูญเสียของตำรวจอาชีพทั้งสองนายนี้จะเป็นครูและอุทาหรณ์ให้กับ ตำรวจทุกๆคนทั่วประเทศได้ ที่ปฏิบัติหน้าที่ ได้พึงระลึกอยู่เสมอว่า ชีวิตได้แขวนอยู่บนเส้นได้ในทุกวินาทีที่สวมเครื่องแบบ ปฏิบัติหน้าที่ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนอยู่นั้นจงอย่าได้ประมาทกับชีวิตที่ พร้อมจะเกิดความสูญเสียชีวิตเหมือนเช่นหนนี้

ผบ.ตร.เปิดนิทรรศการ"ตร.ยุคใหม่ไม่ทำผิด"

เมื่อเวลา 07.00 น.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดนิทรรศการตำรวจยุคใหม่ไม่ทำผิด บริเวณชั้น 1 อาคาร บช.ก. (ฝั่งถ.อังรีดูนังต์) พร้อมด้วยพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. (ปป 1) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น และผบก.ทั้ง 12 หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับ บช.ก. โดยพล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า นิทรรศการดังกล่าวเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะทำให้ตำรวจได้ตระหนักถึงปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในวงการตำรวจ เป็นการยกระดับแนวความคิดขึ้นมาให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนรับรู้สภาพปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์และหน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจ และใช้องค์ความรู้ใหม่ ๆ

“ตำรวจยังไม่เข้าใจว่าการเป็นตำรวจอาชีพต้องทำกันอย่างไร บางทีความผิดที่กระทำไปก็ทำเพราะความไม่รู้ว่าผิด และทำให้ไม่เป็นตำรวจอาชีพ เป็นแค่อาชีพตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวน สำหรับผมคิดว่าตำรวจทำผิดมากที่สุดคือใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด โครงการนี้จะทำให้ตำรวจตระหนักถึงความผิดพลาดที่ตนเกิดขึ้น” พล.ต.อ.วิเชียรกล่าว และว่า เชื่อว่านิทรรศการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยบรรเทา ลดปัญหาการประพฤติผิดของตำรวจให้หันหลังกลับมาดูและรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ให้ตรงกับคำขวัญ บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว และการรณรงค์ ส่งเสริม ประชาสัมพัน์ให้ข้าราชการตำรวจมีจิตสำนึกยกย่องความชื่อสัตย์สุจริตให้เป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยการเปิดโอกาสให้ภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลการทุจริต จะช่วยบรรเทาปัญหาการทุจริตได้อีกส่วนหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นิทรรศการ “ตำรวจยุคใหม่ ไม่ทำผิด” นั้นจัดที่บริเวณโถงชั้นล่าง อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนิทรรศการแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ โดยบริเวณทางเข้าเริ่มที่ด้านมืด หรือด้านไม่ดีของตำรวจที่ตกหลุมพรางไปกับความเชื่อ ค่านิยมที่ผิด ๆ อาทิ การใช้วิธีผิด ๆ อุ้ม ทำร้ายเพื่อการสืบสวน การอยากได้อยากมีอำนาจ หาตั๋วในการวิ่งเต้นจากนักการเมือง เงินซื้อขายตำแหน่ง มาเฟีย พ่อค้า การเบียดบังเวลาราชการ ไปจนถึงการอยากได้อยากมีทรัพย์สินเงินทองจึงรับผลประโยชน์ กระทำการเลี่ยงกฎหมาย เบียดบังงบประมาณราชการ ยอมถูกชักจูงโดยกลุ่มการเมือง กลุ่มนักธุรกิจ โดยนิทรรศการแสดงให้เห็นว่าเมื่อตำรวจเรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งผิด ยอมรับปรับปรุง เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง สู่แนวทางตำรวจที่ถูกต้อง รับฟังเพื่อนร่วมงาน ความคิดเห็นความต้องการของสังคม ตำรวจก็จะดีขึ้น

ราษฎรไทยส่วนใหญ่เห็นว่าผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎร ไทย

เมื่อ ๑๗ ม.ค. ที่วัดวาเล่ย์เหนือ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่ ๓ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จ.ตาก ราษฎรไทยจำนวนกว่า ๑๐๐ คน ได้เดินทางมาร่วมทำประชาคมหมู่บ้าน โดยมี ร.ท.เฉลิม บุญพรมวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วาเล่ย์, เจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารราบที่ ๑๗๔๓ ฐานปฏิบัติการบ้านวาเล่ย์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ ๔ ราษฎรไทยส่วนใหญ่เห็นว่า ต้องการให้ผู้อพยพที่อาศัยอยู่อย่างอิสระในหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ออกจากหมู่บ้านไป เนื่องจากผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎร ไทย และมีการขโมยทรัพย์สิน ซึ่งทางชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สามารถจับกุมได้เกือบทุกคืน นายก อบต.วาเลย์ ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมทำประชาคมว่า ปัญหาการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-พม่า ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานาน และต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคน ที่ช่วยกันดูแลในหมู่บ้าน สำหรับผู้อพยพดังกล่าวมีประมาณ ๑,๐๐๐ คน ได้หนีภัยสงครามจากการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า กับกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ ดีเคบีเอ-กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ เคเอ็นยู หรือ กะเหรี่ยงคริสต์ บริเวณค่ายวาเล่ย์ ตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ยเหนือ บ้านวาเล่ย์ใต้ โดยเข้ามาอยู่อย่างอิสระ กระจัดกระจายไปทั่วตามแนวชายแดน

เกาะติดประเด็นร้อน วันที่ ๑๘ ม.ค. ๕๔

เกาะติดตามประเด็นสำคัญของวันที่ ๑๘ ม.ค. ๕๔
๑.ประเด็นใหญ่วันที่ ๑๘ ม.ค. ต้องรอลุ้นผลการพิจารณาของศาลอุทธรณ์กัมพูชา ว่าจะให้ประกันตัว ๕ คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัวในการล่วงอธิปไตยหรือไม่ หลังจากทนายความได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์ไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๔ ม.ค.ที่ผ่านมา และศาลได้นัดพิจารณาคำร้องในวันที่ ๑๘ ม.ค. ว่า จะได้รับการประกันตัวเพิ่มเติมจากเดิม ๒ คน ก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยเฉพาะกับนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ซึ่งถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการจารกรรมข้อมูลเพิ่มเติม งานนี้คงจะได้พิสูจน์ฝีมือรัฐบาลอีกรอบ ซึ่งล่าสุด นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อยู่ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะหารือเรื่องนี้กับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมต.ต่างประเทศกัมพูชาด้วย
๒.ประเด็นต่อเนื่องยังอยู่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรัก ชาติ ที่ยืนยันเดินหน้าตั้งขบวนธรรมยาตราหน้าทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะเคลื่อนขบวนธรรมยาตราในเวลา ๐๙.๕๙ น. ไปทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำนักพระราชวัง หลังจากไม่สามารถพึ่งพาฝ่ายบริหารให้ช่วยเหลือ ๗ คนไทยที่ถูกจับตัวได้ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มได้งดจัดกองคาราวานรถกระจายเสียง ๓๐ คัน กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ เชิญชวนประชาชนมาร่วมชุมนุม เพราะเห็นว่าจะสร้างปัญหาการจราจร ท่ามกลางเสียงสะท้อนจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า การทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาครั้งนี้อาจเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
๓.การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ ๑๘ ม.ค. กระทรวงการคลังเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดงบประมาณกลางปี ๒๕๕๔ เพิ่มเติม ๑.๒ แสนล้านบาท เพื่อนำไปชดเชยเงินคงคลังที่ถูกนำมาช่วยเหลือภัยน้ำท่วม ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าเป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ทะลุเป้า จึงมีการตั้งงบกลางปีมาชำระหนี้และใช้ในการฟื้นฟูภัยพิบัติ ไม่ให้เป็นภาระต่อรัฐบาลชุดใหม่ แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่าการตั้งงบกลางปีนี้เพื่อแลกผลประโยชน์กับพรรคร่วม รัฐบาลในการโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสงสัยว่ารัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้เกินเป้าจริงหรือไม่ งานนี้ติดตามหลังการประชุมครม.นายกฯ และนายกรณ์ จติกวณิช รมว.คลังจะนำตัวเลขมาแจกแจงให้กระจ่างได้หรือไม่ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย และแนวทางการบริหารการคลังในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองสิ เป็นทางน้ำชลประทานที่เรียกเก็บค่าชลประทานในราคา ๐.๕๐ บาท/ลบ.ม. พ.ศ.... เพื่อดำเนินการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และเพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมติครม.เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ย.๕๐ ที่มีการอนุมัติให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) พิจารณาแล้ว โดยสาระสำคัญของร่างกฏกระทรวงฯกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองสิ และต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เป็นทางน้ำที่เก็บค่าชลประทาน หรือ เก็บค่าน้ำในราคา ๐.๕๐ บาท/ลบ.ม. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ และการทบทวนและวิเคราะห์สถานการณ์โครงการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่ เดินทางเข้ามาในประเทศในกรณีเกิดจลาจล

กะเหรี่ยงอพยพหลายร้อยยังไม่กล้ากลับบ้าน

รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า หลังกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA)และกองกำลังสหภาพแห่งชาติอิสระ KNU หรือทหารกะเหรี่ยงคริสต์ ยังคงสู้รบกับกองทัพพม่าด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งฝ่ายพม่าและฝ่ายกะเหรี่ยง ต่างยิงอาวุธหนักใส่กัน ที่บริเวณค่ายวาเล่ย์ ทำให้มีกระสุนปืน M.79 ล้ำเข้ามาตกในเขตไทย บริเวณหน้าฐานทหาร ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ที่บ้านวาเล่ย์ ติดชายแดนไทย - พม่า แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ซึ่ง พ.อ.สุภโชค ธวัชพีระชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอดได้นำกำลังทหารไปตรวจสอบพื้นที่กระสุนตกแล้วนั้น ทำให้ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า กว่า 300 คน ยังคงอาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย - พม่า บริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ บ้านวาเล่ย์เหนือ และบ้านมอเกอร์ยาง เพราะไม่กล้าอยู่ในฝั่งพม่า

ขณะที่ราษฎรไทย ที่อาศัยอยู่บ้านวาเล่ย์ ต.วาเลย์ อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวว่า สถานการณ์การสู้รบ ทำให้รายได้ของชาวบ้านลดลง เพราะปกติได้ค้าขายกับชาวพม่า ขณะที่บางรายอยากจะให้การสู้รบยุติลงโดยเร็ว เพราะทำให้การค้าขายแย่ลง

ประเด็นร้อน17ม.ค.

ประเด็นร้อน 17 ม.ค. เข้าสู่สัปดาห์ว่าด้วยการเมืองในสภาจะร้อนเร่าเมื่อได้ฤกษ์เปิดสภาสมัยสามัญ วันที่ 21 ม.ค.นี้ ด้วยวาระโหวตรัฐธรรมนูญที่ไม่ลงตัวในพรรคร่วมรัฐบาล ตามด้วยศึกซักฟอกรัฐบาล ส่วนการหาทางช่วยคนไทยที่ถูกเขมรคุมตัวยังต้องติดตาม

1.เปิดด้วยปัญหาดอกเบี้ยขยับตัว ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นทุกฝ่ายต้องกังวลเป็นพิเศษ ในฝั่งของนักธุรกิจคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะสามารถผลักภาระต้นทุนไปให้ผู้บริโภครับภาระแทนได้

สถานการณ์นี้ผู้บริโภคต้องรับไปเต็มๆ เริ่มจากดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเริ่มเห็นดอกเบี้ย 0% ในระยะเวลาสั้นลงแล้ว จากเดิมที่ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่จะให้ดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เหลือเพียง 0% 3-6 เดือน คงที่แค่ 3-6 เดือนเท่านั้น

หรือกรณีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ก็เริ่มส่งสัญญาณจะขยับดอกเบี้ยขึ้นอีกประมาณ 0.1-0.2% ตามต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น โดยรายใหญ่อย่างบริษัท ทุนธนชาต ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นภายในเดือน ม.ค.นี้ ทั้งนี้ถ้าดอกเบี้ยปรับ 0.1-0.2% จะมีผล|ให้ผู้ซื้อรถยนต์มีภาระผ่อนเพิ่มขึ้นงวดละประมาณ 100-400 บาทต่องวด ที่สำคัญ ถ้ารายใหญ่อย่างธนชาตขยับขึ้น ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็น่าจะขยับตามแน่นอน ผู้บริโภคทุกครัวเรือนที่มีภาระหนี้ต้องปรับตัวให้ดี
2.ประเด็นติดตามต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ เห็นจะเป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในเวลา 15.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ถือว่าเป็นการประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรกประจำปี 2554 จับตาวาระการประชุมทั้งเรื่องการแก้ปัญหาพลังงาน ซึ่งรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงกลไกราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซแอลพีจี จนเกิดเสียงคัดค้านวิจารณ์กระหึ่มทั่วประเทศ และแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2554 ของรัฐบาล

3.มองไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อร่วมงานคุรุวีรชนครั้งที่ 3 เช้าวันที่ 17 ม.ค. ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ประจวบเหมาะกับเกิดเหตุลอบยิงนายมาโนช ชฎารัตน์ ครูโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูลปัตตานี เสียชีวิตในวันครู มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์บั่นทอนขวัญกำลังใจในวันครู และเป็นการท้าทายอำนาจรัฐจากการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี

การลงพื้นที่ของนายกฯ อภิสิทธิ์ จึงมาพร้อมความตึงเครียด ซึ่งต้องดูปฏิกิริยาของข้าราชครูในพื้นที่ ว่าจะต้อนรับการเดินทางของนายกฯ ในรูปแบบใด และนายกฯ จะสามารถปลุกขวัญกำลังใจข้าราชการครูด้วยวิธีไหน

4.เวลา 10.30 น. ต้องจับตาการหารือทวิภาคีระหว่างนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายฮอร์นัมฮง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา ที่จะคุยกันนอกรอบในเวทีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่เมืองลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย ว่าจะมีข่าวดีเกี่ยวกับ 7 คนที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว อย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ แจ้งไว้ก่อนหน้าหรือไม่

5.วันที่ 21 ม.ค. จะมีการเปิดสภาสมัยสามัญทั่วไป วาระร้อนคือการรอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา สส.เข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 จากนี้ไปต้องดูว่านายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จะส่งสัญญาณบรรจุวาระเมื่อไหร่

ล่าสุดกับการออกมาปูดข้อมูลของ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่หนุนสูตรที่มา สส.แบบ 400 บวก 100 ระบุเบื้องหลังพรรคการเมืองใหญ่ที่ต้องการสูตร 375 บวก 125 เพราะต้องการนำจำนวน 125 ที่นั่ง ในระบบบัญชีรายชื่อไปเร่ขายเก้าอี้ สส.กับพ่อค้านายทุนตัวละ 30-40 ล้านบาท จะได้เข้ามาเป็นรัฐบาล งานนี้มองไปอื่นไม่ได้นอกจากมุ่งตีกระทบพรรคประชาธิปัตย์โดยตรงที่หนุนสูตร 375 บวก 125

6.ขณะที่พรรคเพื่อไทย นัดประชุมในวันที่ 18 ม.ค. เพื่อหารือถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยวางไว้ 2 ประเด็นเบื้องต้น คือ ความเดิมเกี่ยวกับการเสียชีวิตของกลุ่มคนเสื้อแดง และการทุจริตในรัฐบาล ซึ่งจะมีการวางตัวบุคคลในการอภิปราย แต่ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนเห็นจะเป็นความไม่ลงรอยในตำแหน่งว่าที่นายกฯ ที่จะต้องเขียนพ่วงท้ายในญัตติซักฟอก โดยกลุ่มหนึ่งหนุนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ขณะที่อีกฟากยังไม่ค่อยเห็นด้วย เห็นได้จากกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประกาศไม่ร่วมอภิปรายครั้งนี้ ดูท่าการโชว์ลีลาอภิปรายของนายมิ่งขวัญสู่บันไดฝันไม่ราบรื่นแน่ วันนี้เป็นต้นไปต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวกลุ่มต้านจะโยนระเบิดวาทะทำลาย ความมั่นใจฟากนายมิ่งขวัญหรือไม่

7.ฝั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบาย การพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ โดยประเด็นน่าสนใจ คือ กรมปศุสัตว์จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาถึงโครงสร้างบอร์ดไข่ใหม่ ตามผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เสนอให้มีการปรับลดคณะที่ปรึกษาในส่วนของเอกชนลง และให้มีตัวแทนจากนักวิชาการเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเสนอให้บอร์ดชุดเดิมทำการต่อไปจนหมดวาระกลางปี 2554

ตร.จับชาวอุตรดิตถ์สกัดลักลอบขนแรงงานต่างด้าว

นายอธิพันธุ์ ดวงแก้ว อายุ 25 ปี ชาวอุตรดิตถ์ ถูกตำรวจทางหลวงอ่างทองสกัดจับ หลังรับแจ้งว่าลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า โดยใช้รถกระบะทะเบียน บบ 3931 พิษณุโลก มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ขณะถูกสกัดจับ นายอธิพันธุ์ เลี้ยวรถไปยังทางเข้าวัดต้นไทร อ.ไชโย และเมื่อจวนตัวจึงขับเบียดรถตำรวจ จากนั้นได้เปิดประตูกระโดดหลบหนี ส่งผลให้รถกระบะที่ขนแรงงานต่างด้าวพุ่งลงข้างทาง แต่สุดท้ายไปไม่รอด ถูกจับกุมได้ในที่สุด
ผู้ต้องหาสารภาพว่า ลักลอบขนแรงงานชาวพม่า 17 คน มาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปส่งโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร

ยกกำลังล่าระทึกคว่ำตาย2สาหัส5 ค้นรถเจอยาไอซ์

หนุ่มนักศึกษาเทคนิคควบกระบะแหกด่านตำรวจ แหกโค้งชนกำแพงบ้าน สังเวยสยอง 2 ศพ เจ็บระนาวอีก 5 ราย ผงะค้นในรถพบยาไอซ์ กระสุนปืนพร้อมแมกกาซีน คาดวัยโจ๋พกสิ่งผิดกฎหมายมาในรถ เห็นด่านตรวจค้นเกิดความกลัวเลยซิ่งแหกด่าน สุดท้ายพบจุดจบอนาถ รอสอบปากคำคนเจ็บหลังอาการดีขึ้นอีกครั้ง

สลดนักศึกษาซิ่งแหกด่านสังเวย 2 ศพ เจ็บระนาวครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 15 ม.ค. ขณะที่ พ.ต.ท. กฤศกร ทองอินทร์ รอง ผกก.ป.สภ. เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณถนนพัทยาเหนือ หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง พบรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บร 9853 ชลบุรี ขับผ่านมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้จอด แต่รถกระบะคันดังกล่าวพุ่งชน แหกด่านหลบหนีไปทางถนนสุขุมวิทอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงกระจาย กำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด

ต่อมา รถกระบะต้องสงสัยได้เลี้ยวเข้าไปในซอยวัดหนองใหญ่ กระทั่งพอถึง บริเวณทางโค้งรถเกิดเสียหลักพุ่งชนกำแพงบ้านของชาวบ้านอย่างแรงจนรถพัง ยับเยิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ ทราบชื่อนายอดิศร บุญหล่ำ อายุ 20 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งเป็นคนขับรถ และ น.ส.จุลจิรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี นอกจากนี้ในรถยังพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นายวัฒนา ปราบรัตน์ อายุ 20 ปี และหญิงสาวเป็นเยาวชนอีก 3 คน โดยคนเจ็บทั้ง 5 รายอาการค่อนข้างสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง รพ.บางละมุง ตรวจค้นในรถพบยาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใสจำนวนหนึ่ง และกระสุนปืนขนาด 11 มม. 2 นัดพร้อมแม็กกาซีน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษ ฐานว่า ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวขับรถกระบะผ่านมาพบด่านตรวจ จึงเกิดความกลัวเพราะในรถมีสิ่งผิดกฎหมาย เลยตัด สินใจซิ่งรถแหกด่านแล้วประสบอุบัติเหตุ ชนกับกำแพงจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งคงต้องรอให้คนเจ็บอาการดีขึ้นเพื่อจะได้สอบปากคำถึงที่มาของยาไอซ์และ กระสุนปืนว่าเป็นของใคร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.

ชาวบ้านวาเล่ย์ อยากให้กะเหรี่ยง-พม่าหยุดรบ

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ราษฎรบ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้ไปดูหลุมระเบิดเอ็ม.79 ที่ล้ำเข้ามาตกในเขตไทย หลังจากที่ทหารรัฐบาลพม่า รบกับฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. บริเวณค่ายวาเล่ย์ และมีกระสุนล้ำเข้ามาตกในเขตไทยหลายนัด แต่มีกระสุนเอ็ม 79 ที่ล้ำมาตกบริเวณในหมูบ้าน และอยู่ด้านหน้าฐานปฏิบัติการทหารของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด ซึ่งชาวบ้านดังกล่าว ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ขณะที่ฝ่ายทหารได้ตรวจสอบไปยังฝั่งพม่า ไม่มีกองกำลังฝ่ายใดที่ออกมาสแดงความรับผิดชอบ
ชาวบ้านวาเล่ย์ กล่าวว่า สถานการณ์การสู้รบ ทำให้รายได้ของชาวบ้านลดลงเพราะปกติได้ค้าขายกับชาวพม่า ขณะที่บางรายอยากจะให้การสู้รบยุติลงโดยเร็ว เพราะทำให้การค้าขายแย่ลง ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งสองฝ่ายเงียบลง ส่วนผู้หนีภัยสงครามชาวพม่ายังคงอาศัยอยู่ในเขตไทย โดยอาศัยอยู่ตามบ้านคนรู้จัก และพื้นที่ป่า

แก๊งแขกขาวฉกเงินเสี่ยไร่อ้อยกำแพงเพชร

เมื่อ 14 ม.ค. พ.ต.ต.ยสพนต์ พวงทอง ร้อยเวร สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุ คนร้ายฉกเงินลูกค้าในธ.กรุงไทย สาขาชากังราว ถ.เจริญสุข ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร และถอยรถยนต์ชนรถครูสาวที่มาติดต่อธุรกรรมการเงินเสียหาย จึงไปตรวจสอบ

พบ นายสินชัย คงสิทธิ์ อายุ 57 ปี เสี่ยเจ้าของไร่อ้อยผู้เสียหาย อยู่บ้านเลขที่ 37/2 หมู่ 11 ต.นิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้เสียหาย ให้การว่า ขณะนั่งรอคิวเพื่อนำเงินสดจำนวน 160,000 บาท ฝากเข้าบัญชี มีชายชาวต่างชาติ ลักษณะเป็นแขกขาว รูปร่างท้วม อายุประมาณ 40 ปี ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง มานั่งข้างๆ ทำทีสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ และหลอกให้มองไปที่เคาน์เตอร์ จากนั้นรีบร้อนลุกขึ้นเดินหนีไป เมื่อตนนับเงินให้เจ้าหน้าที่พบมีเพียง 125,000 บาท หายไป 35,000 บาท จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านนางกรวิพา สำโรง อายุ 36 ปี ครูร.ร.ชากังราว (เทศบาล 4) ให้การว่า ขณะมาติดต่อธนาคาร รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กค 225 สุโขทัย ของตน ถูกรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อวอลโว่ สีแดง สภาพเก่า ทะเบียน กข 1628 ไม่ทราบจังหวัด ที่จอดอยู่ด้านหน้าถอยมาชนจนด้านหน้าขวายุบเสียหาย โดยสังเกตเห็นว่าคนขับรถคันดังกล่าวผลุนผลันออกมาจากธนาคาร และรีบขับรถหนีไป ลักษณะคนร้ายเทียบกับภาพจากกล้องวงจรปิดน่าจะเป็นคนเดียวกัน

ด้านพ. ต.ต.ยสพนต์ กล่าวว่า จากการสอบสวนและดูภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคาร สันนิษ ฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพ ทำงานได้รวดเร็วมาก สามารถดึงเงินมาได้โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว เจ้าหน้าที่จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม.หิ้วเอเย่นต์ชาวไทยใหญ่ ค้นแมนชั่นย่านบางพลี เจอยานรกนับแสน

เมื่อ เวลา 03.30 น. วันที่ 15 ม.ค. พล.ต.ต.มล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รอง ผบช.บก.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รองผบก.สส.ฯ พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.1 บก.สส.ฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำตัว นายทรงวุฒิ ใบครุฑ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมหมายค้นของศาลอาญา ที่ 52/2554 ลงวันที่ 15 ม.ค.2554 เข้าค้นภายในห้องพักอาคารเพชรกุลแมนชั่น ซอยกิ่งแก้ว 1 ข. ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังทำการสืบสวนทราบว่าที่แมนชั่นดังกล่าว เป็นจุดพักยาเสพติดของเครือข่ายขบวนการค้ายาชาวไทยใหญ่

โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้าตรวจค้นภายในห้องพัก เลขที่ 303 ชั้น 3 อาคารบี พบของกลางยาบ้า จำนวน 26 มัด มัดละ 6,000 เม็ด รวม 156,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้เตียงนอนในห้องดังกล่าว จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำกำลังเข้าตรวจค้นที่ห้องเลขที่ 405 ชั้น 4 ของอาคารเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกจุดที่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายนี้ แต่จากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด

โดย พล.ต.ต.มล.พันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากตามที่ทางรัฐบาลมีนโยบายในการกวาดล้างปราบปรามยาเสพติด ซึ่งพบว่ายาเสพติดส่วนใหญ่มีการลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทาง บก.สตม.จึงทำการสืบสวน โดยได้ข้อมูลจากทาง พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบก.ตม.5 บก.สตม. ว่า นายทรงวุฒิ ผู้ต้องหารายนี้ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดชาวไทยใหญ่ จึงได้นำกำลังเฝ้าติดตาม กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (14 ม.ค.) สามารถจับกุมตัวได้จากภายในซอยกิ่งแก้ว 7 พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด ขณะที่ ผู้ต้องหากำลังนำยาไปส่งให้กับเอเย่นต์อีกรายหนึ่ง

รอง ผบช.บก.สตม. กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนขยายผลนายทรงวุฒิ ทราบว่า ที่ห้องพัก จำนวน 2 ห้อง ที่ทำการเข้าค้นวันนี้ มีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาดังกล่าว ซึ่งคนร้ายใช้เป็นจุดพักยา ก่อนมีการกระจายสู่เอเย่นต์รายอื่น ๆ อีกทีหนึ่ง จึงได้เร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายค้นเข้าตรวจค้นทันที เนื่องจากเกรงว่าหากช้ากว่านี้ ยาจำนวนดังกล่าว อาจมีการยักย้ายถ่ายเทออกไปก่อน ซึ่งจากการตรวจค้นภายในห้อง 303 พบยาบ้า จำนวน 156,000 ซุกซ่อนอยู่ ส่วนที่ห้อง 405 ไม่พบยาเสพติด แต่อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนว่าห้องทั้งสองห้องนั้น มีใครเป็นผู้มาเช่าเป็นเจ้าของ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างเป็นผู้ส่งยาบ้า โดยทำมาแล้ว 2 ครั้ง ในครั้งแรกได้ค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 50,000 บาท ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และยังไม่ได้รับค่าจ้าง เนื่องจากถูกจับกุมเสียก่อน เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่ง บช.ปส.ดำเนินคดี โดยจะมีการประสานข้อมูลร่วมกัน เพื่อสืบสวนขยายผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป.

แจ้งจับจุฬาราชมนตรี

เมื่อ วันที่ 14 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ได้ลงมติยกเลิกคณะกรรมการกลางฯ ชุดที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล เป็นเลขาธิการ ซึ่งยกเว้นประธานโดยตำแหน่ง คือ จุฬาราชมนตรี โดยให้ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการแทน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายพิเชษฐได้ทำหนังสือถึง กฤษฎีกา เพื่อตีความว่าเป็นการถอดถอนที่ขัดต่อระเบียบหรือกฎหมายหรือไม่ เนื่องจาก เป็นการปลดจากตำแหน่งก่อนครบวาระนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา นายพิเชษฐ ได้มอบอำนาจให้นายมนตรี ทรงประไพ ทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ พงส.(สบ 2) กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พล.ต.ต.สุรินทร์ กับพวก ซึ่งเป็นกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 43 คน ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ และซ่องโจร เหตุเกิดที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก เมื่อวันที่ 4-12 ตุลาคม 2553

ทั้งนี้ สำหรับการแจ้งความดังกล่าวนายพิเชษฐ ผู้เสียหายยืนยันว่าตนเองยังคงดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลาม แห่งประเทศ ไทย โดยอ้างว่ากระบวนการปลดออกจากตำแหน่งนั้นไม่ถูกต้องตามระเบียบ ดังนั้นการกระทำใดๆ ของคณะกรรมการกลางฯ ชุดที่มี พล.ต.ต.สุรินทร์ เป็นเลขาธิการนั้นจึงถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย โดยกล่าวหาคณะกรรมการกลางฯ ทั้ง 43 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยประชุม ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นเงินกว่า 4 แสนบาทว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ และซ่องโจร

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องและสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

ข่าวประเด็นร้อน 14 ม.ค.

เรื่องร้อนๆ ในวันศุกร์สุดสัปดาห์นี้ คงไม่มีเรื่องไหนน่าติดตามเท่ากับชะตากรรมของคนไทยอีก 5 คน ที่ทางศาลกัมพูชาไม่อนุมัติให้ประกันตัว และทางกองทัพธรรมจะยกเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติเข้ามาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันรัฐบาลไทยให้เร่งช่วยเหลือคนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับไป

1.ยังต้องติดตามชะตากรรมคณะคนไทย 5 คนที่เหลือ แม้ศาลกัมพูชาให้นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ และ น.ส.นฤมลจิตรวะรัตนา ประกันตัวไปแล้ว แต่ยังต้องพำนักอยู่ในกัมพูชา แต่นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติและ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ โดนเพิ่มข้อหาพยายามประมวลข่าวสารที่อาจเป็นอันตรายต่อการป้องกันประเทศ

ขณะที่สถานการณ์การเมืองในประเทศยิ่งร้อนขึ้น เมื่อกองทัพธรรมมาสมทบเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล การจราจรติดขัดอย่างหนัก และในเวลา 11.00 น. นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่ม นัดประกาศท่าทีว่าจะระดมม็อบไปปิดด่านพรมแดนที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วเพื่อประท้วงรัฐบาล รวมทั้งกดดันให้กัมพูชาปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คนหรือไม่

2.ประเด็นความขัดแย้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังร้อนแรงขย่มความสัมพันธ์พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมยิ่งพรรคเพื่อไทยประกาศตัวชัดว่าหนุนสูตรระบบการเลือกตั้ง สส.เขต 400 คนและระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน กลายเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์โดนโดดเดี่ยว ดังนั้นต้องจับตาท่าทีแก้เกมการเมืองของผู้จัดการรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรี

3.ขณะเดียวกัน วันที่ 14 ม.ค. พรรคเพื่อไทยนัดประชุมใหญ่ สส. เพื่อซักซ้อมทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพร้อมกับจะกำหนดหัวหอกเปิดซักฟอกนายกรัฐมนตรีด้วย เบื้องต้นในการประชุมคราวนี้น่าจะมีการเสนอคณะ สส.ที่จะขออภิปรายในครั้งนี้ เช่น เสนอตัวผู้นำการอภิปราย เสนอทีมอภิปราย พร้อมทั้งเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีแนบไปกับญัตติด้วย

4.คณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)นัดประชุมเวลา 14.00-17.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีวาระเพื่อพิจารณาที่น่าสนใจ เช่น ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การกำหนดสัดส่วนรายได้ และกรอบแนวทางการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. ปีงบประมาณ 2555 และการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการคัดเลือก อปท.ดีเด่น ปี 2554 เป็นต้น

5.อีกหนึ่งเผือกร้อนที่ตกใส่มือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)เพราะต้องเข้าไปไกล่เกลี่ยปัญหาให้กับกลุ่มผู้ค้าย่านราชประสงค์ที่เดือดร้อนจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประสานระหว่างผู้ค้าย่านราชประสงค์กับแกนนำเสื้อแดง งานก็เลยเข้าพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ที่ต้องเข้าไปเป็นคนกลาง จึงต้องติดตามกันว่าทาง สตช.จะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร

6.วันที่ 14 ม.ค. จะครบกำหนดส่งข้อมูลผลการตรวจสอบทุจริตโครงการประกันรายได้เกษตรกร รวมถึงผลการตรวจสอบขึ้นทะเบียนของเกษตรกรเพื่อเข้าร่วมโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรในส่วนของข้าว ที่นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ ได้สั่งการให้นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

ผลการตรวจสอบในเรื่องนี้ของกระทรวงเกษตรฯ ถือว่าสำคัญมากทั้งในแง่การทุจริตและการควบคุมการรั่วไหลของงบประมาณ เพราะขณะนี้มีการร้องเรียนข้อมูลทุจริตโครงการประกันรายได้เกษตรกร ทั้งจากภาคกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ ยังพบว่าตัวเลขการขึ้นทะเบียนของเกษตรกรระหว่างการประกันรายได้นาปี 2552/2553 กับนาปรัง 2553 ที่ผ่านมา พบว่ามีเกษตรกรเพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกตจำนวนมาก โดยตัวเลขการทำนาปีมีเพียง 4.8 แสนไร่ นาปรังมีมากถึง 1.4 ล้านไร่ และมีความผิดปกติของครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนมากถึง 4.42 หมื่นครัวเรือน

7.ติดตามผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ขึ้นดอกเบี้ยไปอีก 0.25% ทำให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ประกาศขึ้นดอกเบี้ย ส่วนธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กน่าจะประกาศขึ้นดอกเบี้ยตามมาในวันที่ 14 ม.ค.

8.วันนี้พนักงานการบินไทย ต้องลุ้นผลประชุมคณะกรรมการบริษัทกันตัวโก่ง เพราะ อำพน กิตติอำพนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ด บริษัทการบินไทย บอกว่าการประชุมบอร์ดวันที่ 14 ม.ค.นี้ จะมีการพิจารณาค่าตอบแทนพนักงาน (โบนัส)ประจำปี 2553 ให้กับพนักงาน โดยเน้นนโยบายการจ่ายโบนัสแบบพอเพียงและสอดคล้องกับสถานการณ์บริษัท ซึ่งยังต้องกู้เงินบางส่วนมาบริหารจัดการและเสริมสภาพคล่องทางการเงิน

คดียิงตร.กำแพงเพชรผู้ต้องหาอ้างปืนลั่น

พ.ต.ท.เอนก จันทรศร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกำแพงเพชร กล่าวถึง ความคืบหน้าคดี นายกำพลศักดิ์ พริกทุ่ง อายุ ๕๔ ปี ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ศรีนวล พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.กำแพงเพชร และ ด.ต.อภิศักดิ์ เผ่าฟู ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน เสียชีวิต และจ.ส.ต.ชำนาญ อ่องยิ้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในรถตราโล่ ขณะถูกคุมตัวส่งตรวจแอลกอฮอล์ว่า การสอบสวนสิ้นสุดและสรุปสำนวนคดีแล้ว โดยผู้ต้องหาปฏิเสธว่า ขณะนั่งในรถอาวุธปืนที่พกอยู่ด้านหลังกำลังจะหลุดจากเอว จึงหยิบออกมาเพื่อเหน็บเอวด้านหน้า ระหว่างนั้นปืนลั่นไปถูกเจ้าหน้าที่จนรถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าวิถีกระสุนเจาะเข้าร่าง จ.ส.ต.ชำนาญ พลขับ และพ.ต.ท.ศรีศักดิ์ ในลักษณะการยิงเป็นกลุ่มประสงค์ต่อเป้าหมาย เพราะหากปืนลั่นต้องมีวิธีกระสุนที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน จึงเห็นชัดเจนถึงเจตนาของผู้ต้องหา ขณะที่การเสียชีวิตของตำรวจทั้งสองนาย ผลการตรวจทางนิติเวชระบุว่าไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกยิง เนื่องจากไม่ได้เข้าจุดสำคัญ แต่เสียชีวิตจากการที่รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าด้วยความเร็วกว่า ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนถูกศีรษะถูกกระแทกจนเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นผลโดยตรงจากการใช้อาวุธปืนของผู้ต้องหา คดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้อง ๕ ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ , พยายามฆ่าเจ้าพนักงานใน ขณะปฏิบัติหน้าที่ , ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ , มีอาวุธปืนไว้ ในความโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดย ไม่ได้รับอนุญาตและยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตรวจสอบพบว่าโอนมาจากนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน จ.สุโขทัย ทั้งยังมีข้อมูลว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นพี่ชายนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.สุโขทัย และอาจมีความสัมพันธ์กับซุ้มมือปืนในจังหวัด มีนักการเมืองหนุนหลัง ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลอยู่ ขณะเดียวกันทราบว่าหลายปีก่อนหน้านี้ลูกชายของผู้ต้องหาเคยก่อคดียิงผู้อื่น เสียชีวิตใน จ.กำแพงเพชร และยังตามไปยิงแม่ของเหยื่อจนบาดเจ็บสาหัสจนต้องตัดขาทิ้ง

ผบก.ภ.จว.พิจิตร เร่งแก้ปัญหาในเยาวชนจว.พิจิตร

พล. ต.ต.กฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ ผบก.ภ.จว.พิจิตร เปิดเผยถึงการเร่งแก้ปัญหาในเยาวชนพิจิตร ที่อายุระหว่าง ๑๐ - ๒๕ ปี ที่มักก่อเกิดคดีด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้นในวันนี้ จึงได้เปิดการสอนกฎหมายเรื่องใกล้ตัว ให้กับเยาวชนในโรงเรียนเทศบาลบ้านปากทาง ซึ่งเป็นนักเรียนระดับมัธยม โดยเปิดโอกาสได้ถาม - ตอบ ข้อข้องใจทางกฎหมายในห้องเรียนอย่างใกล้ชิด ซึ่งวิชาที่สอนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องใกล้ตัวทั้งกฎหมายแพ่ง, กฎหมายอาญา, พ.ร.บ.การจราจร, พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเด็กและสตรี รวมถึงเทคนิคเมื่อเกิดเหตุร้าย ให้จำรูปพรรณสัณฐานและยานพาหนะของคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งจากการทำโครงการดังกล่าว มีการประเมินผลพบว่า วัยรุ่นรู้และยำเกรงกฎหมายลดการก่อเหตุทะเลาะวิวาท รวมถึงได้ใช้ให้เป็นผู้แจ้งเบาะแส จนตำรวจพิจิตรสามารถจับกุมบ่อนการพนันและแหล่งอบายมุขต่างๆ รวมถึงจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย ซึ่งได้ประโยชน์จากนักเรียนที่เรียนรู้จาก “ครูตำรวจ” ที่ไปอบรมให้ความรู้ทางด้านกฎหมายอย่างใกล้ชิด อีกทั้งเด็กแว้น เด็กซิ่ง อาชญากรรมทุกรูปแบบ และยาเสพติดก็พลอยลดลงตามไปด้วย

กัปตันบินไทยหวิดดับเจอไล่ยิงบนมอเตอร์เวย์

เหตุระทึกขวัญกัปตันการบินไทยที่ถูกคนร้ายระดมยิงหวิดดับคารถ เปิดเผยเมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น.วันที่(๑๓ ม.ค.) พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าที พงส.(สบ๒) สน.ประเวศ พร้อมชุดสืบสวนเดินทางเข้าสอบปากคำ นายเรืองวิทย์ เรืองเดช อายุ ๕๓ ปี กัปตันสายการบินไทย ที่ห้อง ๑๔๔๐๗ ชั้น ๑๔ รพ.สมิติเวช ถนนศรีนครินทร์ หลังทีมแพทย์ได้ผ่าตัดเอาหัวกระสุนปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ของคนร้ายที่ขับรถยนต์ตามไล่ยิงถูกสะบักหลัง ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ เมื่อเวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น. วันที่ ๑๒ ม.ค.ที่ผ่านมา ร.ท.พูลวิทย์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ ๒๑.๐๐น. ได้เดินทางออกจากบ้านพักโดยรถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยู ๕๒๕ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ๗ศ-๔๒๓๕ กทม.เพื่อไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเนื่องจากจะต้องทำหน้าที่นักบินที่๑เที่ยวบินที่ ทีจี ๙๔๖ กรุงเทพฯ-เอเธนส์ โดยใช้เส้นทางด่วนสาทรลงด่วนพระราม๙ ขึ้นด่วนศรีรัช ไปลงมอเตอร์เวย์ ใช้ช่องทางซ้าย วิ่งด้วยความเร็ว๘๐-๙๐กม./ชม.แต่เนื่องจากช่องทางซ้ายรถบรรทุกใช้กันมากตนจึงเปลี่ยนช่องทางเดินรถไปใช้ช่องขวาเป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ซึ่งตนจำหมายเลขไม่ได้ ติดฟิล์ม กรองแสงมืดทั้งคัน ขับตามหลังตนมาในระยะกระชั้นชิด เปิดสูงเข้าตาตนจนพล่าไปหมด ตนจึงลดความเร็วให้รถคันดังกล่าวแซงขึ้นหน้าไปพร้อมให้สัญญาณไฟว่าเปิดไฟสูงเป็นที่รบกวน แล้วขับตีคู่กันไป สักพักคนในรถยนต์ดังกล่าวจึงใช้เลเซอร์ พ้อยท์เตอร์ ความเข้มสูงสีเขียว ยิงแสงมา ตนจึงใช้ไฟฉายส่องกลับไป ร.ท.พูลวิทย์ กล่าวต่อว่า จนมาถึงใกล้ทางแยกเข้าด่านทับช้างการจราจรด้านซ้ายติดขัดตนจึงเบี่ยงไปด้านช่องทางเดินรถช่องกลางโดยไม่ทันสังเกตุว่ารถคู่กรณีก็ติดอยู่ที่ช่องทางด้านขวาเช่นกัน มารู้ตัวเพราะถูกเลเซอร์พ้อยท์เตอร์ฉายเข้ามาในรถยนต์ จึงรู้ว่าเป็นรถฟอร์จูนเนอร์คันเดิม ตนจึงใช้ไฟฉายส่องกลับไปอีกครั้ง จากนั้นคู่กรณีได้ขับรถจี้ท้ายก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ๓นัดซ้อนจนกระจกหลังรถยนต์ของตนแตกทั้งบานและถูกยิงเข้าที่สะบักซ้ายจึงบังคับรถเข้าชิดด้านซ้ายเพื่อจอดแต่ปรากฎว่ารถฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวได้ขับตามมาและยิงปืนใส่รถของตนอีก ๑ นัด ตนจึงรีบเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี โดยพยายามขับฉวัดเฉวียนไปมาเพื่อสลัดรถของคนร้ายที่ขับขี่ตามและยิงปืนใส่รถของตนอีก ๖-๗นัด ร.ท.พูลวิทย์ กล่าวอีกว่า จนกระทั่งมาถึงทางเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจึงใช้วิธีการเปลี่ยนช่องทางวิ่งทางขวาเพื่อหลอกให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจว่าจะเข้าช่องทางด่วนแล้วเปลี่ยนเข้าช่องซ้ายขึ้นสะพานเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนจะชลอความเร็วเพื่อดูว่าคนร้ายตามมาหรือไม่ ปรากฎว่าคนร้ายยังคงจอดรถเหมือนรอดูท่าทีตนว่าจะทำอย่างไรซึ่งรวมระยะทางที่คนร้ายไล่ยิงรถของตนจากด่านทับช้างถึงทางเข้าสนามบินกว่า ๔ กม.เลยที่เดียว จากนั้นจึงขับรถเข้าไปเก็บไว้ที่ลานจอดในท่าอากาศยาน แล้วรีบแจ้งให้ต้นสังกัดทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ติดต่อนักบินสำรองไปทำหน้าที่แทน ส่วนตนเองทางบริษัทได้เรียกรถพยาบาลมารับและนำเข้ารับการผ่าตัดนำหัวกระสุนออกตั้งแต่คืนเกิดเหตุ โดยกระสุนที่ผ่าออกแพทย์ได้นำมาให้ดูแต่ตนไม่แน่ใจว่าเป็นกระสุนขนาด.๓๒หรือ .๓๘ เพราะอยู่ในฤทธิ์ยาชา ส่วนพ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกก.สส.น.๔ได้ประสานกับทางสน.ประเวศ เพื่อหาภาพวงจรปิดรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ดังกล่าวเพื่อเป็นเบาะแสไปสู่ตัวผู้ต้องหา และจะประสานกับทางจส.๑๐๐ สวพ.๙๑เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์กับผู้ที่ใช้ยวดยานพาหนะไปมาในคืนเกิดเหตุและประสบเหตุพอดีเข้าให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตร.สน.ประเวศและกก.สส.น.๔ พร้อมกับนำหัวกระสุนที่ได้จากบาดแผลมาตรวจสอบเพื่อเปรียบเทียบว่าเป็นกระสุนที่ถูกยิงจากปืนที่เคยมีการบันทึกประวัติไว้หรือไม่ สำหรับคนร้ายน่าจะมีมากกว่า๑คนและน่าจะมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนพอสมควรเพราะก่อเหตุขณะกำลังขับรถและจุดที่ยิงเข้าใส่ผู้เสียหายยังใกล้เคียงกับจุดสำคัญที่ทำให้ถึงชีวิตได้ด้วย ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ ร.ท.พูลวิทย์ นั้นเป็นอดีตศิษย์เก่าโรงเรียน สวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นเดียวกับ นายเนวิน ชิดชอบ และเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น ๑๗ รุ่นเดียวกับพ.ต.อ.บวร ศิริพันธุ์ ผกก.สน.ทางด่วน๒ อีกด้วย

เยี่ยมอาการตำรวจกำแพงเพชร

เมื่อ ๑๒ ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลตำรวจ(รพ.ตร.)-- พล.ต.อ.สุวัฒน์ ธรรมรงค์ศรีสกุล ที่ปรึกษา สบ.๑๐ พร้อมด้วยพล.ต.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รอรับและเยี่ยมจ.ส.ต.ชำนาญ อ่องยิ้ม สังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่นายกำพลศักดิ์ พริกทุ่ง ใช้อาวุธปืนยิง ขณะถูกควบคุมตัวในสภาพมึนเมาอยู่ในรถกระบะตราโล่ ที่ถูกส่งตัวขึ้นเฮลิคอร์ปเตอร์ของกองบินตำรวจจากกำแพงเพชร มาพักฟื้นและรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนเองในฐานที่ดูแลภาค ๕ และภาค ๖ มาเป็นตัวแทนพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ที่ติดราชการทางภาคใต้ มาเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะเป็นเพียงคดีอุบัติเหตุจราจรธรรมดา แต่เมื่อตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดก็ปรากฏว่าเกินที่กฎหมายกำหนด ซึ่งระหว่างทางที่ควบคุมตัวขึ้นรถไปโรงพักนั้นผู้ต้องหาไม่รู้ว่าเกิดภาวะกด ดันหรือมีเหตุอะไรก่อเหตุขึ้น ซึ่งในส่วนของคดีก็ดำเนินการแจ้งข้อหาไปตามกฎหมาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนหนึ่งก็ถือเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ตรวจสอบการพกพาอาวุธ ของผู้ต้องหา ก่อนการควบคุมตัว แต่เชื่อว่า ตำรวจทั้ง ๓ คน ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว เนื่องจาก เป็นการเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์อุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน ก่อนควบคุมตัวนายกำพลศักดิ์ ที่อยู่ในสภาพมึนเมาซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ ซึ่งเป็นเหมือนเหตุการณ์ทั่วไปเท่านั้น ในนครบาลมีกรณีแบบนี้เป็นจำนวนมาก แต่จากนี้ไปจะสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใช้ความระมัดระวังในการ เข้าระงับเหตุทุกครั้ง ส่วนการช่วยเหลือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมอบเงินช่วยเหลือให้ผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ๘๕,๐๐๐ บาท ส่วนผู้เสียชีวิตจะได้รับการปูนบำเหน็จ ๔ ชั้นยศ ๕ ขั้นเงินเดือน และเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่ง ด้าน พ.ต.อ.พงศธร สุโฆสิต แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า สำหรับอาการของจ.ส.ต.ชำนาญ นั้นถูกยิง ๒ จุด ที่บริเวณหัวไหล่ และกระดูกสันหลัง และได้รับการผ่าตัดที่จังหวัดกำแพงเพชรมาเรียบร้อยแล้ว อาการพ้นขีดอันตราย แต่ต้องเฝ้าระวังเรื่องโรคแทรกซ้อนและอาการติดเชื้อ ที่น่าห่วงคือเรื่องของระบบประสาทเนื่องจากกระสุนถูกสันหลัง ขณะนี้พบว่ามีอาการอัมพาตบริเวณขาทั้งสองข้างซึ่งต้องดูแลว่าจะสามารถฟื้น กลับคืนมาได้มากน้อยแค่ไหน.

การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจประจำสนามบินสุวรรณภูมิ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากรรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติให้มีการจัดตั้งสถานีตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เป็นกรณีพิเศษขึ้นมาเฉพาะ เพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว โดยให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำหนดหลักเกณฑ์ กติกา วิธีการ คุณสมบัติ รวมทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายให้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากคนที่จะเข้าไปทำงานที่สถานีตำรวจแห่งนี้ต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถที่จะรองรับปัญหาเฉพาะด้านที่จะเกิดขึ้นในสนามบินสุวรรณภูมิได้ โดยเฉพาะในการดูแลความเรียบร้อย อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และรักษาชื่อเสียงให้กับ ประเทศชาติ เพราะเป็นงานในระดับสากลสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ เพราะจะ ได้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวนานาชาติ โดยกำหนดให้สถานีตำรวจดังกล่าวอยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของตำรวจภูธร ภาค ๑ โดยใช้งบประมาณของ สตช. ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยว สำนักงบประมาณและการท่าอากาศยาน.

ความคืบหน้า ๗ คนไทย

กระทรวงต่างประ เทศยัน ๒ ใน ๗ คนไทย นำโดย'วีระ'เจอ ศาลเขมรเพิ่มข้อหาหนัก'จารกรรม'โทษจำคุก ๕-๑๐ ปี 'มาร์ค'นำเรื่องถกในครม. ก่อนมติออกมาให้บัวแก้วให้ข่าวคนเดียวพอ แก้ปัญหาพูดมากคนละทีสองที 'เทพเทือก'ชี้ท่าทีกร้าวของ'ฮุนเซน' ถือเป็นการพูดตามหลักการ เมื่อคดีอยู่ในชั้นศาลก็ไม่มีใครเข้าไปก้าวก่ายช่วยเหลือได้ เตรียมบินไป'ภูมิซรอล'ตรวจสถานการณ์ชาย แดนที่ศรีสะเกษ 'กษิต'ยัน ๗ คนไทยล้ำแดนเขมรแน่นอน แต่ทางเขมรน่าจะอะลุ้มอล่วย เพราะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยกเว้นกรณี'วีระ' คงเพราะจำหน้าได้ ด่าพันธมิตรฯประท้วงไม่ตรงความจริง ใช้ความขัดแย้งกับเขมรเพื่อประโยชน์การเมืองภายใน

ความคืบหน้าคดีรถเก๋งชนรถตู้

เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. วันที่ ๑๑ ม.ค. พ.ต.ท.พิพัฒน์ นิยมพฤกษ์ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจร วิภาวดีรังสิต (สน.วิภาวดี) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีรถตู้โดยสารถูกรถเก๋งซีวิคชนบนทางด่วนโทลล์เวย์จนมีคนเสียชีวิตถึง ๙ ศพ ว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนคดีคืบหน้าไปแล้วกว่า ๗๐% ซึ่งในส่วนต่อไปคือเรียกเจ้าของรถเก๋ง ซีวิค มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งกับแจ้งข้อหายินยอมให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ขับรถของตน โดยข้อหานี้จะมีโทษปรับ ๒,๐๐๐ บาท เชิญตัวมาสอบปากคำในวันที่ ๑๓ ม.ค.นี้ เวลา ๑๐.๐๐ น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้นำหมายเลขทะเบียนรถของรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว ๘๔๖๑ กรุงเทพมหานคร ไปตรวจสอบกับข้อมูลพื้นฐานของกรมการขนส่งทางบก ปรากฏว่า ทะเบียนหมายเลขดังกล่าวระบุว่า เป็นรถ กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ซึ่งมีบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นผู้จดทะเบียนเป็นเจ้าของ คาดว่ารถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า คันนี้น่าจะถูกสวมทะเบียนมาก่อนหน้านี้ เมื่อประสานไปยังพนักงานสอบสวนสอบถามรายละเอียดในเรื่องนี้ก็ได้แต่กล่าวว่าต้องสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป.

คอลัมน์หมายเหตุประเทศไทย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ก็ไม่มีอะไรใหม่จนน่าเซอร์ไพรส์ ของขวัญ 9 ชิ้น  ที่ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จัดงานใหญ่แถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ มาตรการส่วนใหญ่ก็เป็นการ หาเสียงกับคนบางกลุ่มในเมืองหลวง  ที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเข้าไม่ค่อยถึงมากกว่า และมาตรการส่วนใหญ่ก็ไปเริ่มใน เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่คาดกันว่าจะมีการ เลือกตั้งใหม่ พอดี

ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็หนีไม่พ้น การหาเสียงเพื่อเลือกตั้ง อยู่ดี บาง มาตรการแทนที่จะเป็นผลดีต่อบ้านเมือง กลับเป็นผลเสียต่อบ้านเมืองด้วยซ้ำ

ของขวัญชิ้นแรก ที่ นายกฯอภิสิทธิ์  แถลงก็คือ การเปิดโอกาสให้แรงงานนอกระบบกว่า 10 ล้านคน เข้าสู่ระบบประกันสังคม มาตรการนี้ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินเองจำนวนหนึ่ง และรัฐบาลจัดสรรงบประมาณจ่ายสมทบให้อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อลดภาระผู้ประกันตนที่อยู่นอกระบบ ของขวัญชิ้นนี้ผมเห็นด้วย  เป็นเรื่องที่ดีน่าสนับสนุน ช่วยให้คนทำงานทุกคนได้มีหลักประกันเรื่องค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต อีกช่องทางหนึ่ง

เช่น กรณีจ่าย 70 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบอีก 30 ผู้ประกันก็ได้สิทธิ 3 อย่าง คือ ชดเชยรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ถ้าใครจ่าย 100 บาท รัฐบาลสมทบอีก 50 บาท ก็จะได้สิทธิเรื่องบำเหน็จชราภาพด้วย

แต่ ของขวัญชิ้นที่ 2-3-4 ใครฟังก็รู้ว่าเป็นการ "หาเสียง" โดยตรงกับ กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ และ หาบเร่แผงลอย ใน กทม.

ของขวัญชิ้นนี้รัฐบาลจะจัดสรรเงิน 1,600 ล้านบาท ให้คนขับแท็กซี่ที่มีประสบการณ์ 3 ปีขึ้นไป กู้ไปซื้อรถแท็กซี่เป็นของตัวเอง และจัดสรรเงินอีกก้อนให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยใน กทม. กู้ไปลงทุนเพิ่มเติม  รวมทั้งการขึ้นทะเบียนวินมอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพมหานครทั้งหมด เพื่อไม่ต้องจ่ายค่านักเลงคุมวินเดือนละ 1,000-2,000 บาท (อันหลังนี้คงจะสำเร็จยาก)

ของขวัญชิ้นที่แย่ที่สุด ก็คือ การเพิ่มจุดผ่อนผันหาบเร่แผงลอยบนทางเท้าที่ผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิผู้อื่นอีก 20,000 รายใน กทม. โดยไม่คำนึกถึง "คุณภาพชีวิต" ของประชาชนในเมืองหลวง ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่สุด แต่นายกฯกลับเอาใจหาบเร่แผงลอยเพื่อหาเสียงกลุ่มเดียว คิดได้สั้นดี

ของขวัญชิ้นที่ 5 เป็นเรื่อง การแยกราคาก๊าซแอลพีจี ระหว่าง ผู้ใช้ในครัวเรือน กับ ผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม นายกฯบอกว่า รัฐบาลจะเลิกอุดหนุนราคาก๊าซแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป แต่ในภาคครัวเรือนยังคงตรึงราคาไว้เหมือนเดิม    มาตรการนี้จะช่วยประหยัดการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันได้ 7,300 ล้านบาท จะได้ช่วยดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้แพงกว่า 30 บาทไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์เรื่องแยกราคาก๊าซแอลพีจี ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่ควรทำมานานแล้ว ทุกวันนี้กลไกราคาแอลพีจีในเมืองไทยถูกบิดเบือนจากการตรึงราคาจนกลายเป็นสินค้าการเมืองไปแล้ว นักการเมืองทุกสมัยไม่กล้าแตะ ได้แต่ตรึงราคาต่อไปเรื่อยๆ เป็นไปได้อย่างไร ราคาแอลพีจีในตลาดโลกกิโลละ 24 บาท แต่รัฐบาลสั่งขายในกิโลละ 10 บาทกว่า แล้วก็เอาเงินผู้ใช้น้ำมัน เบนซิน แก๊สโซฮอล์ ดีเซล ไปชดเชยกิโลละ 14 บาท มันไม่ยุติธรรม

ส่วน ของขวัญชิ้นที่ 6-7-8 ก็เป็นมาตรการ "หาเสียง" เหมือนกัน ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 90 หน่วยใช้ฟรีแบบถาวร โดยจะเก็บเงินจากผู้ใช้ไฟมากไปชดเชย รวมทั้งการให้ซื้อขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมแทนการซื้อขายเป็นฟอง

ของขวัญที่ถูกใจคนกรุงมากที่สุดเห็นจะเป็น ของขวัญชิ้นที่ 9 เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่ถูกตำรวจละเลยมาหลายปีแล้ว นับตั้งแต่เกิดเสื้อเหลืองเสื้อแดง ซึ่งนายกฯประกาศว่า จะทำให้เห็นผลภายใน 6 เดือน เริ่มตั้งแต่มกราคมนี้ จะลดปัญหาอาชญากรรมลงให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ คนกรุงเทพฯจะคอยดู ทำได้จริงอย่างที่คุยหรือไม่.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

2 เจ้าอาวาสรถคว่ำเจ็บ-คาดสาเหตุฝนตกถนนลื่น

11 มค. 2554   เวลา  11.23 น.

พ.ต.ท. ศักย์สรณ์ แยงทิพย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย รับแจ้งเหตุรถยนต์ตกถนนพลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพระสงฆ์ 2 รูป และคนขับรถ 1 คน ที่เกิดเหตุบริเวณริมทางโค้งร่องถนนถนนสายสุโขทัย-ตาก ประมาณหลัก กม.ที่ 14-15 พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ 4 ประตูสีดำ หมายเลขทะเบียน กค 6116 สุโขทัย พลิกคว่ำอยู่ร่องถนนข้างทางในสภาพพังยับ โดยผู้บาดเจ็บหน่วยกู้ภัยรีบรุดนำส่งโรงพยาบาลสุโขทัยไปก่อนหน้านี้แล้ว

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับขี่โดยนายฉลาด แก่นไม้หอม โดยมีผู้โดยสารเป็นพระสงฆ์ 2 รูป คือ พระครูสิริบุญธาดา เจ้าอาวาสวัดบ้านขวาง ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย และพระครูพิทักษ์กิจโกศล เจ้าอาวาสวัดกำแพงงาม ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย เดินทางไปยัง อ.บ้านด่านลานหอยเพื่อรับกิจนิมนต์งานสลากภัติ ณ วัดลานหอย แต่เมื่อเดินทางถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งประกอบกับถนนลื่น เนื่องจากฝนตกตลอดในช่วงเช้าทำให้รถเกิดหลุดทางโค้งพร้อมกับพลิกคว่ำลงข้างทางดังกล่าว

ล่าสุดอาการพระทั้ง 2 รูป ปลอดภัยแล้วโดยพระครูสิริบุญธาดา ได้รับบาดเจ็บแขนขวาหักและมีรอยฟกช้ำตามลำตัว ส่วนพระครูพิทักษ์กิจโกศลได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก ใบหน้ามีรอยถลอกพร้อมลำตัวฟกช้ำซึ่งแพทย์ให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป ส่วนคนขับรถยนต์คันดังกล่าวศรีษะแตกรักษาตัวยังโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน

ไทยทำหนังสือถึงพม่า ควบคุมยิงไม่ให้ล้ำเขต

11 มค. 2554  เวลา   10.22 น.

เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งถึงกรณีการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า กับ ชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.บริเวณเกาะมะนาว ค่ายผาลู ตรงข้ามบ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก และมีกระสุนปืนค. 81 ล้ำแดนมาตกในเขตไทยว่า ฝ่ายไทยได้ทำหนังสือถึงทางการพม่าที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด โดยในหนังสือระบุว่าขอให้ฝ่ายพม่าได้ควบคุมการใช้อาวุธหนัก เพื่อไม่ให้ล้ำเข้ามาในเขตไทย ขณะเดียวกัน การยิงอาวุธหนักที่ล้ำเข้ามาตกในเขตไทยที่ผ่านมานั้น เป็นพื้นที่ป่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฝ่ายไทยใดๆ

สำหรับสถานการณ์การสู้รบในขณะนี้ ฝ่ายทหารรัฐบาลพม่ายังคงถูกฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.ปิดล้อม และทั้ง 2 ฝ่ายยังคงยิงอาวุธหนักใส่กัน เป็นระยะๆ ขณะที่ทหารพม่าได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนการสู้รบด้าน อ.พบพระ จ.ตาก ฝ่ายกะเหรี่ยงเคเอ็นยู. กับฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. ร่วมกันโจมตีทหารพม่า บริเวณตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก