ยินดีต้อนรับ

ยินดีต้อนรับทุกท่าน...รับรู้ข่าวสารด้วยรายงานข่าวจาก ฝอ.2 บก.อก.ภ.6

11 กุมภาพันธ์ 2554

ประเด็นร้อน 11ก.พ.

ประเด็นร้อนวันสุดสัปดาห์นี้ คงไม่มีเรื่องอะไรเด่นแซงหน้าประเด็นการขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา จนนำไปสู่การใช้กำลังสู้รบจนมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต และรัฐบาลทั้งสองประเทศก็ตอบโต้กันไปมา โดยมีประเทศอื่นเริ่มเข้ามาขอเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก็ไม่ยอมและจะยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นขึ้นเพื่อกดดันรัฐบาล

1.ต้องติดตามการชุมนุมของกลุ่ม พธม. แม้ว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมืองจะยืนยันว่าไม่เดินทางไปหน้ารัฐสภา แต่จะไปสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 จากนั้นจะกลับมาปักหลักที่สะพานมัฆวานรังสรรค์เหมือนเดิม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 (ผบช.น.1)ซึ่งรับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยหน้ารัฐสภาก็ไม่ประมาท เตรียมกำลังไว้13 กองร้อย หลังจากซักซ้อมรับมือแล้วเมื่อวันที่ 10 ก.พ. อีกด้านกลุ่ม พธม. จะส่งตัวแทนส่งสิ่งของช่วยเหลือไปที่อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในช่วงเย็น ต้องดูว่าบรรยากาศจะเป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือไม่
2.สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาหายตึงเครียดในระดับหนึ่ง เมื่อสองฝ่ายใช้เวทีนานาชาติต่อสู้ โดยนายกษิต ภิรย์ รมว.ต่างประเทศ เตรียมนำคณะเดินทางไปให้ข้อมูลกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ในวันที่ 14 ก.พ. ที่นครนิวยอร์กฝ่ายไทยต้องการแก้ปัญหาแบบทวิภาคีล่าสุด นายฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา ออกมาโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นอาชญากรสงคราม ต้องขึ้นศาลโลก และประกาศว่ากัมพูชาพร้อมต่อสู้ในทุกระดับเพื่อชิงพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายปี ต้องจับตาท่าทีจากนานาชาติหลังฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมกัมพูชาเสนอเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย รวมถึงประเทศยักษ์ใหญ่อื่นๆ ว่าจะมีจุดยืนอย่างไร

3.วันนี้คงได้รู้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ2 ประเด็น คือ มาตรา 190 เรื่องประเภทหนังสือสัญญาต่างประเทศที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และระบบเลือกตั้ง สส.ในสูตร 375+125 โดยการประชุมรัฐสภาจะเริ่มเวลา 10.00 น.รูปแบบจะเป็นการลงมติโดยการขานชื่ออย่างเปิดเผย หากจะผ่านความเห็นชอบต้องมีเสียงของ สส. และ สว. รวมกัน313 เสียงขึ้นไป หรือเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา จึงต้องลุ้นว่าจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ เพราะในการลงมติวาระ 2 หากดูคะแนนแล้วยังขาดอีก 15 เสียง แต่เชื่อว่าไม่ยากและไม่ง่ายแม้พรรคร่วมอย่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันว่าจะลงมติให้ แต่ต้องจับตาวุฒิสภาที่แตกออกไปหลายส่วน

4.ประชุมบอร์ดทีโอที และ กสท โทรคมนาคม ที่อาคารถนนแจ้งวัฒนะโดยคาดว่าจะหารือเรื่องอนุมัติผลการเปิดประมูล วางโครงข่าย 3จี ทั่วประเทศซึ่งผู้ชนะการประมูลครั้งนี้ ได้แก่ บริษัทกิจการร่วมค้าเอสแอล คอนซอร์เตียมประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART บริษัท ล็อกซเล่ย์หรือ LOXLEY บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) และบริษัท โนเกีย-ซีเมนส์ ซึ่งชนะการประมูลด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (อีออกชัน) จากมูลค่าการประมูลที่ 17,440 ล้านบาท เหลือ16,290 ล้านบาท

ผลการประมูลครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประมูลไม่ยอมรับผลการพิจารณาเข้าร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของการประมูล โดยเฉพาะการปรับตกคุณสมบัติของบริษัท แซดทีเอ และอีริคสัน ซึ่งขณะนี้ทั้งสองบริษัทยื่นฟ้องทีโอที และกระบวนการอยู่ในชั้นศาล ทางบอร์ดทีโอทีจึงยังไม่ควรจะรีบทำสัญญากับบริษัทที่จะชนะการประมูลเพราะจะเกิดคำครหาได้

5.ธนาคารไทยพาณิชย์จัดแถลงข่าวเรื่อง "ธุรกิจไทยจะก้าวอย่างไรในยุค AEC" โดยมีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้บรรยาย ณ สำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์

6.จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยกระทรวงพลังงานจะเสนอให้นำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอีกรอบจนถึงสิ้นเดือน ก.พ.นี้โดยวงเงิน 5,000 ล้านบาท ในกองทุนน้ำมันฯ ที่นำมาใช้ในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้ราคาเกิน 30 บาท/ลิตรนั้น ขณะนี้เหลือไม่ถึง 1,000 ล้านบาทหรือใช้ได้อีกไม่เกิน 3 วัน

7.กระทรวงอุตสาหกรรมจัดประชุมคณะกรรมการ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายโดยมี วาระสำคัญคือการพิจารณาว่าจะให้แร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายหรือไม่ ซึ่งหากคณะกรรมการมีมติว่าให้แร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายก็จะมีผลให้การนำเข้าแร่ใยหินซึ่งส่วนใหญ่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมกระเบื้องจะมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นในการอนุญาตให้นำเข้า ซึ่งการพิจารณาประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากมีการร้องว่าแร่ใยหินส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็ง


ที่มา....โพสต์ทูเดย์