หลังจากเจ้าหน้าที่จาก หน่วยงานรัฐหลายฝ่าย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการรุกป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำป่าสัก บ้านไทรงาม หมู่ 8 ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พร้อมยึดไม้ของกลางนั้น
แหล่งข่าวใน อ.วิเชียรบุรี กล่าวว่า การเข้ามาตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนนั้น ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้เข้ามาดำเนินการนานกว่า 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่เริ่มตัดไม้ และขนออกไปแปรรูปขาย แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการจับกุมและปราบปรามปล่อยให้นายทุนเข้า ไปตัดไม้อย่างต่อเนื่อง
"ผู้ที่รุกป่าเป็นญาตินักการเมืองท้องถิ่นใน อ.วิเชียรบุรี โดยแปลงที่บุกรุกมีพื้นที่กว่า 300 ไร่ อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติติดกับเขามดง่าม หมู่ 8 หลังหมู่บ้านไทรงาม ส่วนอีกรายเป็นนายทุนที่เข้ามาจ้างให้ชาวบ้านเข้ายึดครองแผ้วถางป่า โดยจะซื้อไร่ละ 200 บาท และขายคืนให้ชาวบ้านไร่ละ 3,000บาท " แหล่งข่าว กล่าว
นายประจักร มิยา หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ สำนัก 4 นครสวรรค์ กล่าวว่า พื้นที่อ้างว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสัก จริง ส่วนรายละเอียดการออกเอกสาร ส.ป.ก.ขอตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน
นายสมาน ปางวัชรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ เรื่องการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำป่าสัก ได้เรียกทั้งตัวแทนสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพชรบูรณ์ และป่าไม้เข้ามาชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเป็นมาอย่างไร และป่าตรงนี้ฝ่ายไหนรับผิดชอบ และทำไมจึงมีการปล่อยให้มีคนเข้ามาแผ้วถางเป็นจำนวนมาก พร้อมกับสั่งให้นายไพฑูรย์ อินทร์สุข อำเภอวิเชียรบุรี รายงานเรื่องนี้เข้ามายังจังหวัดด่วนเช่นกัน
นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายอำเภอวิเชียรบุรีแล้ว แต่คลาดเคลื่อนมากเพราะรายงานมาว่าเพียง 30 ไร่ ขัดต่อความเป็นจริง อาจต้องตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ฐานให้ข้อมูลอันเท็จต่อผู้บังคับบัญชา และได้มอบหมายให้นายสมาน ปางวัชากร รองผู้ว่าฯ เข้าควบคุมในเรื่องนี้แล้ว
พ.ต.ท.นิวัฒน์ คันธานันท์ รอง ผกก.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี กล่าวว่า คดีนี้หลังจากรับของกลางเป็นไม้ 31 ท่อนที่ป่าไม้ยึดมา ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อสืบหาตัวคนกระทำผิดอย่างเร่งด่วนแล้ว
